คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2780/2536

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ยื่นคำแถลงต่อศาลชั้นต้นว่า จำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความโดยไม่รื้อส่วนที่เป็นหลังคาซึ่งอยู่เหนือเสาโรงรถออกไป จึงขอไม่วางเงินที่จะต้องชำระแก่จำเลย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า หลังคาโรงรถไม่มีในสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์จะอ้างเป็นเหตุไม่ชำระเงินตามข้อตกลงในสัญญาไม่ได้ โจทก์อุทธรณ์ว่า การที่จำเลยไม่รื้อและปล่อยให้ชายคาและหลังคายื่นล้ำคร่อมทางภาระจำยอมที่จำเลยตกลงยอมให้โจทก์ใช้เป็นการไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ มิใช่เป็นการอุทธรณ์โต้แย้งคำพิพากษาตามยอม แต่เป็นการโต้แย้งคำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้นโจทก์ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ใช้ที่ดินของจำเลยกว้าง 3.90 เมตร ยาว 6เมตร เป็นทางเข้าออกสู่ถนนสาธารณะมานานจนได้สิทธิทางภาระจำยอมต่อมาจำเลยก่อสร้างต่อเติมอาคารคร่อมทางภาระจำยอมจนเหลือทางผ่านเพียง 90 เซนติเมตร เป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระจำยอมลดไปขอให้บังคับจำเลยรื้อสิ่งปลูกสร้างและจดทะเบียนภาระจำยอม
จำเลยให้การต่อสู้คดีหลายประการ
ชั้นพิจารณาโจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยจำเลยยอมรื้อกำแพงโรงรถส่วนที่ก่อสร้างเพิ่มตามแผนที่พิพาท และจะทำผนังกำแพงโรงรถขึ้นใหม่ให้ห่างจากตัวบ้านทั้งด้านหน้าและด้านหลัง2.65 เมตร ให้เสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2531 กับยอมให้โจทก์ใช้ทางพิพาทได้ตลอดไป โจทก์ยอมช่วยค่าก่อสร้างให้จำเลย 4,500 บาทโดยจะชำระให้ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2531 ด้วยการวางศาลศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอม
วันที่ 30 พฤศจิกายน 2531 โจทก์แถลงว่า จำเลยไม่รื้อถอนส่วนที่เป็นหลังคาซึ่งอยู่เหนือเสาโรงรถออกไป เป็นการไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความ จึงขอไม่วางเงินที่จะต้องชำระแก่จำเลยศาลชั้นต้นมีคำสั่งในวันเดียวกันว่าหลังคาโรงรถไม่มีในสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์จะอ้างเป็นเหตุไม่ชำระเงินตามข้อตกลงในสัญญาไม่ได้
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 เห็นว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นการคัดค้านการกระทำของจำเลยว่ามิได้ปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญาประนีประนอมยอมความเป็นการผิดสัญญาเท่านั้นมิใช่เหตุอันจะอุทธรณ์ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 138(1)(2)(3) เป็นอุทธรณ์ที่ต้องห้าม ศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์โจทก์ไม่ชอบ พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ว่าหลังคาโรงรถไม่มีในสัญญาประนีประนอมยอมความ โจทก์จะอ้างเป็นเหตุไม่ชำระเงินตามสัญญาไม่ได้นั้น ย่อมมีความหมายว่า แม้จำเลยไม่รื้อส่วนที่เป็นหลังคาอยู่เหนือเสาโรงรถออกไปก็ไม่เป็นการผิดสัญญาประนีประนอมยอมความเพราะตามสัญญามิได้ระบุว่าจำเลยต้องรื้อออกไปเช่นนี้ที่โจทก์อุทธรณ์ความว่าการที่จำเลยไม่รื้อและปล่อยให้ชายคาและหลังคายื่นล้ำคร่อมทางภาระจำยอมที่จำเลยตกลงยอมให้โจทก์ใช้ ทำให้โจทก์ได้รับความเดือดร้อนใช้ทางไม่ได้ดีเท่าที่ควรเป็นการไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความจึงมิใช่เป็นการอุทธรณ์โต้แย้งคำพิพากษาตามยอม แต่เป็นการโต้แย้งคำสั่งดังกล่าวของศาลชั้นต้น โจทก์ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ได้ เห็นสมควรให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1พิจารณาและพิพากษาคดีใหม่
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 ให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1วินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์แล้วมีคำพิพากษาใหม่ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์และฎีกาให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 รวมสั่งเมื่อพิพากษาใหม่

Share