แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย25ปีแต่เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นการส่งตัวไปฝึกและอบรมที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนกลางมีกำหนดระยะเวลาขั้นต่ำ3ปีและชั้นสูง4ปีการเปลี่ยนโทษจำคุกดังกล่าวมิใช่เป็นการลงโทษจำคุกเมื่อศาลอุทธรณ์ภาค2พิพากษายืนจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218วรรคแรก
ย่อยาว
โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ลงโทษ จำเลย ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 และ83
จำเลย ให้การ ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้น พิพากษา ว่า จำเลย มี ความผิด ตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 277 วรรคสาม , 83 ขณะ กระทำ ความผิด จำเลย มี อายุ 17 ปี เศษลด มาตรา ส่วน โทษ ให้ จำเลย กึ่งหนึ่ง ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76ประกอบ มาตรา 53 แล้ว คง จำคุก 25 ปี พิเคราะห์ พฤติการณ์ แห่ง คดีประกอบ รายงาน ของ สถานพินิจ และ คุ้มครอง เด็ก และ เยาวชน จังหวัดสมุทรปราการ แล้ว เห็นว่า การกระทำ ของ จำเลย เป็น ภัย ต่อ สตรี เพศและ เป็นเหตุ ฉกรรจ์ อีก ทั้ง ไม่รู้ สำนึก และ ยอมรับ ผิด โดย หลบหนี จนเจ้าพนักงาน ตำรวจ ต้อง ออกหมายจับ เพื่อ สวัสดิภาพ และ อนาคต ของ จำเลยอาศัย อำนาจ ตาม ความใน พระราชบัญญัติ จัดตั้ง ศาล เยาวชน และ ครอบครัวและ วิธีพิจารณา คดี เยาวชน และ ครอบครัว พ.ศ. 2534 มาตรา 104(2)จึง ให้ เปลี่ยน โทษ จำคุก เป็น ส่งตัว จำเลย ไป ฝึก และ อบรม ที่ สถานพินิจและ คุ้มครอง เด็ก และ เยาวชน กลาง มี กำหนด ขั้นต่ำ 3 ปี ขั้น สูง 4 ปี
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 แผนก คดี เยาวชน และ ครอบครัว พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา แผนก คดี เยาวชน และ ครอบครัว วินิจฉัย ว่า “คดี นี้ศาลชั้นต้น พิพากษา จำคุก จำเลย 25 ปี แต่ เปลี่ยน โทษ จำคุก เป็น การ ส่งตัวไป ฝึก และ อบรม ที่ สถานพินิจ และ คุ้มครอง เด็ก และ เยาวชน กลาง มี กำหนดระยะเวลา ขั้นต่ำ 3 ปี และ ขั้น สูง 4 ปี ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืนเห็นว่า การ เปลี่ยน โทษ จำคุก เป็น ส่งตัว จำเลย ไป ฝึก และ อบรม ดังกล่าวมิใช่ เป็น การ ลงโทษ จำคุก จึง ต้องห้าม มิให้ คู่ความ ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริง ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกที่ จำเลย ฎีกา ว่า จำเลย มิได้ กระทำผิด นั้น เป็น ฎีกา ใน ปัญหาข้อเท็จจริงศาลฎีกา ไม่รับ วินิจฉัย ”
พิพากษายก ฎีกา จำเลย