คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2772/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเป็นหนี้ค่าซื้อของเชื่อโจทก์ ม.บุตรชายจำเลยได้ออกเช็คชำรหนี้ดังกล่าวบางส่วนจำเลยให้แก่โจทก์ แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค โจทก์ฟ้อง ม.เป็นจำเลยในคดีล้มละลายในมูลหนี้ตามเช็คและได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไว้ ต่อมาโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีนี้ ขอให้ชำระค่าซื้อของเชื่อนั้นทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ย ปรากฏว่าโจทก์ได้รับชำระหนี้ในคดีล้มละลายมาแล้วบางส่วนหลังจากที่ยื่นฟ้องคดีนี้แล้ว ดังนี้ แม้โจทก์จะได้รับชำระหนี้จำนวนดังกล่าวมาแล้วก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้รับชำระโดยครบถ้วน จึงไม่เป็นการตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องเรียกร้องในส่วนที่ยังไม่ได้รับขำระหนี้จากจำเลยซึ่งต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์อีก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ซื้อเชื่อสินค้ารวมเป็นเงิน ๑๓๘,๘๙๔.๖๐ บาท จำเลยได้ชำระค่าสินค้าให้โจทก์แล้ว ๑๕,๐๐๐ บาท คงค้างชำระ ๑๒๓,๘๙๔.๖๐ บาท จำเลยให้นายมนตรีบุตรชายออกเช็ค ๖ ฉบับ ชำระหนี้บางส่วนให้โจทก์เป็นการรับสภาพหนี้แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ๖ ฉบับ โจทก์ติดต่อทวงถามแล้ว แต่จำเลยไม่ยอมรับหนังสือทวงถาม ขอให้จำเลยชำรเงิน ๑๒๓,๘๙๔.๖๐ บาท และดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๖ ถึงวันฟ้องเป็นเงิน ๑๖,๒๖๑.๑๕ บาท รวมเป็นเงิน ๑๔๐,๑๕๕.๗๕ บาท กับดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับจากวันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่ได้เป็นหนี้โจทก์ ไม่เคยให้นายมนตรีทำการค้าในนามจำเลยร่วมกับจำเลย ความจริงมีว่านับแต่วันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๑๕ นายมนตรี เป็นผู้ค้ายาเอง ใช้ชื่อประกอบการพาณิชย์ว่า เต๊กมิ่ง โจทก์ติดต่อค้าขายกับนายมนตรีโดยตรง ไม่เกี่ยวกับจำเลย การออกเช็คเป็นเรื่องของนายมนตรีและไม่เป็นการรับสภาพหนี้ หนี้รายนี้เป็นหนี้รายเดียวกับที่โจทก์นายมนตรี ตามคดีล้มละลายหมายเลขแดงที่ ๑/๒๕๑๗ โจทก์ยื่นคำขอรับชำระหนี้ จึงชอบที่จะรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของนายมนตรี ไม่มีสิทธิมาฟ้องเอาจากจำเลยอีก ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำ หนี้สินที่มีขึ้นก่อนวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๑๖ ขาดอายุความแล้วขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยชำระเงิน ๑๒๓,๘๙๔.๖๐ บาท โดยหักเงินชำระในคดีล้มละลายออกก่อนให้แก่โจทก์ พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๑๖ จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเป็นหนี้ค่าสินค้าเชื่อโจทก์ตามฟ้อง วินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า ส่วนที่จำเลยว่า โจทก์ได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของนายมนตรีในคดีล้มละลายมาแล้วประมาณ ๒,๐๐๐ บาทเศษ โจทก์ยังมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินอยู่อีกภายในเวลาตามที่กำหนดในกฎหมายล้มละลาย การที่โจทก์ฟ้องคดีนี้เป็นการเรียกให้ชำระหนี้ในมุลหนี้รายเดียวกันอีก เป็นการขอรับชำระหนี้ซ้ำไม่ชอบนั้น เห็นว่า เงินที่โจทก์ได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของนายมนตรีดังกล่าวนั้นโจทก์ได้รับภายหลังเมื่อยื่นฟ้องคดีนี้แล้วแม้โจทก์จะได้รับชำระหนี้จำนวนดังกล่าวก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ไม่ได้รับชำระโดยครบถ้วน จึงไม่เป็นการตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องเรียกร้องในส่วนที่ยังไม่ได้รับชำระหนี้จากจำเลย ซึ่งต้องร่วมรับผิดต่อโจทก์อีก
พิพากษายืน.

Share