คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 814/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การอ้างว่าบุคคลใดต้องถูกควบคุมหรือขังโดยผิดกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90 และขอให้ปล่อยตัวนั้น ต้องเป็นกรณีที่บุคคลนั้นกำลังถูกควบคุมหรือขังอยู่ ถ้าได้รับการปล่อยตัวไปแล้ว สิทธิของบุคคลนั้นตามกฎหมายดังกล่าวย่อมระงับไป (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1853/2506)

ย่อยาว

ผู้ร้องร้องว่า ถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมในข้อหาเป็นบุคคงที่มีพฤติการเป็นภัยต่อสังคม ผู้ร้องมีอาชีพโดยสุจริต การปฏิบัติของเจ้าพนักงานตำรวจและการควบคุมตัวผู้ร้องไว้เป็นการผิดต่อกฎหมาย ขอให้ไต่สวนและมีคำสั่งปล่อยตัวผู้ร้อง
วันนัดไต่สวน ผู้ร้องแถลงว่าได้ถูกปล่อยออกจากที่คุมขังแล้ว
ศาลชั้นต้นเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องไต่สวนคำร้อง มีคำสั่งให้จำหน่ายคดี
ผู้ร้องอุทธรณ์ว่า การที่เจ้าพนักงานตำรวจสั่งให้ควบคุมผู้ร้องด้วยข้อหาว่ามีพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคมนั้น เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย แม้ผู้ร้องจะได้รับการปล่อยตัวมาแล้ว ศาลก็ชอบที่จะทำการไต่สวน
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า บุคคลใดร้องต่อศาลขอให้ปล่อยตัวโดยอ้างว่าต้องถูกควบคุมหรือขังโดยผิดกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๙๐ นั้น ต้องเป็นกรณีที่บุคคลนั้นกำลังถูกควบคุมหรือขังอยู่ ถ้าได้รับการปล่อยตัวแล้ว สิทธิของบุคคลนั้นตามกฎหมายดังกล่าวระงับไป เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ร้องถูกปล่อยตัวออกมาจากการควบคุมหรือขังแล้วก่อนวันนัดไต่สวน ผู้ร้องก็ไม่มีสิทธิร้องขอให้ศาลปล่อยตัว ศาลจึงไม่จำเป็นต้องไต่สวนคำร้องของผู้ร้องต่อไป ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ ๑๘๕๓/๒๕๐๖
พิพากษายืน

Share