คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 277/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

สืบพยานบุคคลว่า ผู้กู้ลงลายมือชื่อในแบบพิมพ์สัญญากู้มิได้กรอกข้อความ ซึ่งความจริงเป็นการร่วมทุนทำนาโดยโจทก์ออกค่าใช้จ่ายจำเลยออกแรงทำในนาของจำเลย เป็นการสืบว่าสัญญาไม่สมบูรณ์ สืบได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีคงมีปัญหาข้อกฎหมายที่จะต้องวินิจฉัยเพียงประเด็นเดียวว่า การนำสืบของจำเลยเป็นการนำสืบแก้ไขเปลี่ยนแปลงเอกสาร (หมาย จ.1) ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 44ห้ามมิให้ศาลรับฟังหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าตามคำให้การของจำเลยเท่ากับจำเลยต่อสู้ว่า หนังสือสัญญากู้ (เอกสารหมาย จ.1) ที่โจทก์นำมาฟ้องเป็นเอกสารปลอม ความจริงจำเลยมิได้กู้เงินและรับเงินจากโจทก์ตามสัญญากู้แต่อย่างใดหากแต่เป็นเรื่องที่โจทก์จำเลยร่วมทุนกันทำไร่ทำนาโดยโจทก์ออกเงินค่าใช้จ่ายทั้งหมด ส่วนจำเลยออกแรงงานและใช้ที่ดินของจำเลยปลูกพืชไร่และทำนาจึงให้จำเลยลงชื่อไว้ในแบบพิมพ์หนังสือสัญญากู้ (เอกสารหมาย จ.1) แต่กลับผิดสัญญาเอาผลิตผลไปขาย แล้วแบ่งเงินให้จำเลยเพียงเล็กน้อย อันเป็นการนำสืบถึงความไม่สมบูรณ์ของสัญญากู้ ที่ศาลล่างทั้งสองให้จำเลยนำสืบตามข้อต่อสู้ดังกล่าวได้ จึงต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกาแล้ว”

พิพากษายืน

Share