คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 206/2483

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

อายุความฟ้องหย่านั้นต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่โจทก์รู้เหตุที่อ้างขอหย่านั้น

ย่อยาว

ได้ความว่า จำเลยถูกศาลพิพากษาจำคุกฐานหมิ่นประมาทโจทก์ คดีถึงที่สุดเมื่อวันที่ ๑๐ พฤษภาคม ๒๔๘๒ (คดีแดงที่ ๘๒๘/๒๔๘๑) โจทก์ได้ทราบความในคดีนั้นเพราะเป็นผู้เสียหาย และโจทก์ จำเลยได้ทำหนังสือหย่ากันลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๓๑ จำเลยได้ฟ้องขอให้เพิกถอนหนังสือสัญญาหย่านั้น ศาลได้พิพากษาเมื่อวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๒ ให้เพิกถอนหนังสือหย่าฉะบับนั้น โดยถือว่าโจทก์ จำเลยยังไม่เคยมีการหย่าขาดจากกันเลย (คดีแดงที่ ๑๗/๒๔๘๒) โจทก์จึงมาฟ้องจำเลยขอหย่า
จำเลยต่อสู้ว่า ฟ้องของโจทก์ ขาดอายุความตามประมวลแพ่ง ฯ ม. ๑๕๐๙ เพราะโจทก์ทราบเหตุหย่ามาเกินกว่า ๓ เดือนแล้ว
ศาลชั้นต้นเห็นว่า อายุความในเรื่องนี้เริ่มนับแต่วันคดีอาญาเรื่องหมิ่นประมาทถึงที่สุดคือวันที่ ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๒โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันทีท ๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๒ คดี โจทก์ ขาดอายุความ
โจทก์อุทธรณ์ว่า อายุความควรเริ่มนับแต่วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๔๘๒ ซึ่งเป็นวันที่ศาลพิพากษาให้เพิกถอนหนังสือหย่า เพราะโจทก์ยังเข้าใจอยู่ว่าโจทก์ได้หย่า ขาดจากจำเลยตามหนังสือหย่างลงวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๔๘๑
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเมื่อศาลได้ พิพากษาให้เพิกถอนหนังสือหย่าเสียแล้ว ตาม กฎหมาย โจทก์จำเลยยังเป็นสามีภริยากันอยู่ ฟ้อง โจทก์ยังไม่ขาดอายุความ
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า คดีของ โจทก์ขาดอายุความ เพราะ โจทก์ได้เป็นผู้เสียหายในคดีหมิ่นประมาทซึ่ง โจทก์ชอบที่จะยกเอาเหตุในคดีนั้นขึ้นฟ้องหย่าได้

Share