คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2762/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การซื้อขายที่จะเป็นการซื้อขายตามคำพรรณนา ก็ต่อเมื่อเป็นการซื้อขายโดยผู้ซื้อเชื่อคำบรรยายถึงลักษณะรูปพรรณสัณฐานและคุณภาพของสินค้า การที่โจทก์เสนอขายพินยี่ห้อหนึ่งซึ่งผลิตโดยบริษัทเดียวกับผู้ผลิตพินยี่ห้อที่จำเลยเคยใช้ โดยแจ้งว่ามีคุณภาพมาตรฐานใกล้เคียงกันนั้นเป็นแต่เพียงอวดอ้างคุณสมบัติของสินค้า อันเป็นการโฆษณาสินค้าของโจทก์ผู้ขายเท่านั้น ไม่มีรายละเอียดแห่งคำรับรองเป็นกิจจะลักษณะถึงขนาดที่จะเป็นการขายตามคำพรรณนา
ผู้ขายไม่ต้องรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องในทรัพย์สินซึ่งขายที่มีขึ้นภายหลังการส่งมอบ ดังนั้นผู้ซื้อจึงไม่มีสิทธิยึดหน่วงราคาที่ยังไม่ได้ชำระ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อลูกพินหรือลูกโบว์ลิ่งจำนวน 38 ชุด ราคา 66,500 บาทจากโจทก์แล้วค้างชำระราคา 63,500 บาท ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยให้การว่า จำเลยซื้อลูกพินเพราะเชื่อตามคำพรรณนาของโจทก์ต่อมาปรากฏว่าลูกพินชำรุดเร็วกว่าปกติ จำเลยจึงแจ้งให้โจทก์ทราบว่าหากจำเลยได้รับลูกพินชุดใหม่ที่มีคุณภาพมาตรฐานมาแทนก็จะยอมใช้ราคา แต่โจทก์ไม่ปฏิบัติตาม จำเลยจึงยังไม่ผิดนัด ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 70,087 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่า การซื้อขายลูกพินรายพิพาทเป็นการซื้อขายตามคำพรรณนานั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายสุพรรณ กรรมการบริษัทจำเลยเบิกความว่าเดิมบริษัทจำเลยเคยใช้ลูกพินยี่ห้อ “สไตรเกอร์” มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 และใช้มา5 ปี ลูกพินจึงชำรุด ต่อมาโจทก์เสนอขายลูกพินยี่ห้อ “มิกเซอร์ เรดคราวน์” ซึ่งผลิตโดยบริษัทผู้ผลิตลูกพินยี่ห้อ “สไตรเกอร์” โดยมีคุณภาพมาตรฐานใกล้เคียงกันปัญหาจึงมีว่าตามคำเบิกความดังกล่าวจะถือได้หรือไม่ว่าการซื้อขายลูกพินพิพาทเป็นการซื้อขายตามคำพรรณนา ตามนัยแห่ง ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 503พิเคราะห์แล้วเห็นว่า การซื้อขายจะเป็นการซื้อขายตามคำพรรณนาก็ต่อเมื่อเป็นการซื้อขายโดยผู้ซื้อเชื่อคำบรรยายถึงลักษณะรูปพรรณสัณฐาน และคุณภาพของทรัพย์สิน ซึ่งตามที่จำเลยนำสืบก็เป็นแต่เพียงการอวดอ้างคุณสมบัติของพิน อันเป็นการโฆษณาสินค้าของโจทก์ผู้ขายเท่านั้น ไม่มีรายละเอียดแห่งคำรับรองเป็นกิจจะลักษณะถึงขนาดที่จะเป็นการขายตามคำพรรณนา

จำเลยฎีกาต่อไปอีกว่า จำเลยมีสิทธิยึดหน่วยในการชำระราคาพิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้จะปรากฏว่าลูกพินพิพาทเกิดความชำรุดบกพร่องในภายหลังจากที่จำเลยได้ใช้ลูกพินพิพาทในการเล่นโบว์ลิ่งมาประมาณ 3 สัปดาห์ ดังที่จำเลยนำสืบก็ตามก็เป็นที่เห็นได้ชัดว่าเมื่อจำเลยรับมอบลูกพินพิพาทมิได้มีความชำรุดบกพร่องดังนั้น ความชำรุดบกพร่องดังกล่าวซึ่งแม้จะมีอยู่จริง ก็เป็นเรื่องที่มีขึ้นภายหลังซึ่งผู้ขายไม่ต้องรับผิด ผู้ซื้อคือจำเลยจึงไม่มีสิทธิยึดหน่วงราคาที่ยังไม่ได้ชำระตามมาตรา 488 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 459/2514

พิพากษายืน

Share