แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยใช้ไฟแช็กแก๊สจุดไฟบริเวณที่ราดน้ำมันซึ่งเป็นพื้นปูนซีเมนต์และประตูหน้าบ้านของผู้เสียหายซึ่งเป็นประตูเหล็ก แต่วัตถุดังกล่าวหาใช่ว่าจะไม่สามารถติดไฟได้เลยอย่างแน่แท้ไม่ เพราะน้ำมันเบนซินเป็นวัตถุไวไฟติดไฟง่ายสามารถเผาผลาญปูนซีเมนต์และเหล็กได้ ทั้งเมื่อไฟติดแล้วอาจจะลุกลามกระจายเป็นวงกว้างไปไหม้บ้านของผู้เสียหายได้ การที่จำเลยจุดไฟไม่ติดจึงเป็นเหตุบังเอิญมากกว่า การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานพยายามกระทำความผิดที่ไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ตาม ป.อ. มาตรา 81 แต่เป็นความผิดฐานพยายามซึ่งอาจบรรลุผลได้ตาม ป.อ. มาตรา 80
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218, 80, 33 ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218 ประกอบมาตรา 80 จำคุก 3 ปี 4 เดือน ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218 (1) ประกอบมาตรา 81 จำคุก 1 ปี พิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว โทษจำคุกเห็นสมควรรอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี คุมความประพฤติจำเลยโดยให้จำเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 3 เดือนต่อครั้งมีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คงมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์แต่เพียงว่า การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นความผิดฐานพยายามกระทำความผิดที่ไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81 ดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 วินิจฉัยมาหรือไม่ เห็นว่า แม้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยใช้ไฟแช็กแก๊สจุดไฟบริเวณราดน้ำมันซึ่งเป็นพื้นปูนซิเมนต์และประตูหน้าบ้านซึ่งเป็นประตูเหล็กก็ตาม แต่วัตถุดังกล่าวหาใช่ว่าจะไม่สามารถติดไฟได้เลยอย่างแน่แท้ไม่ เพราะน้ำมันเบนซินเป็นวัตถุไวไฟติดไฟง่าย สามารถเผาผลาญปูนซิเมนต์และเหล็กได้ ทั้งเมื่อไฟติดแล้วอาจจะลุกลามกระจายเป็นวงกว้างไปไหม้บ้านของผู้เสียหายได้ การที่จำเลยจุดไฟไม่ติดจึงเป็นเหตุบังเอิญมากกว่าการกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานพยายามกระทำความผิดที่ไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81 แต่เป็นความผิดฐานพยายามซึ่งอาจบรรลุผลได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80 คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 ส่วนนี้ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา อย่างไรก็ตามเมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีประกอบกับจำเลยและผู้เสียหายเคยเป็นสามีภริยากันมา ทั้งจำเลยไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน เห็นควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดีต่อไป ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาลงโทษจำคุกและรอการลงโทษไว้ชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้นบางส่วน
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218 (1) ประกอบมาตรา 80 ส่วนโทษและนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6.