คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 275/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์บรรยายฟ้องชัดแจ้งว่า ขอให้เปิดทางภารจำยอม ถึงแม้จะมีความกล่าวว่าเป็นทางจำเป็นด้วย ก็เป็นเพียงข้ออ้างว่านอกจากเป็นทางภารจำยอมแล้วยังเป็นทางจำเป็นอีกด้วย ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
โจทก์กับพวกใช้ทางพิพาทเป็นประจำมาเกินกว่าสิบปี ภารจำยอมย่อมเกิดขึ้นเป็นคุณแก่ที่ดินโจทก์แล้ว การที่โจทก์ไม่ได้ใช้ทางพิพาทเป็นทางเดินผ่านตลอดปี หาทำให้การใช้ทางเดินนั้นขาดตอนไม่ติดต่อกันได้ไม่
(อ้างฎีกา 1318/2501)
เมื่อจำเลยอ้างว่าโจทก์เดินในทางพิพาทโดยถือวิสาสะ จำเลยต้องนำสืบข้ออ้างนี้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ได้ใช้ทางเดินในที่ของจำเลยมากว่า ๓๐ ปีแล้วจำเลยได้ขุดดินในทางพิพาททำเป็นสวนเสีย เป็นเหตุให้โจทก์ใช้ทางดัวกล่าวไม่ได้ ขอให้ศาลพิพากษาว่าทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมและให้จำเลยทำทางดังกล่าวให้โจทก์เดินได้สะดวกหรือให้จำเลยขุดดินทำทางใหม่ให้โจทก์เดิน
จำเลยต่อสู้ว่า ไม่มีทางภารจำยอมผ่านที่ดินจำเลย โจทก์กับพวกเพิ่งถือวิสาสะเข้าเดินผ่านที่ดินของจำเลยเมื่อ ๑๐ ปีเศษมานี้ และเดินเฉพาะหน้าแล้งราว ๔ เดือนเท่านั้น และเดินไม่ซ้ำทางกัน ทางผ่านที่ดินจึงไม่ใช่ทางภารจำยอม และตัดฟ้องว่าโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากาษาว่า ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม และฟังว่ามีทางภารจำยอม พิพากษาให้จำเลยเปิดทาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คำบรรยายฟ้องของโจทก์มีความแจ้งชัดว่าเป็นเรื่องโจทก์ฟ้องขอให้เปิดทางภารจำยอม ถึงแม้จะมีความกล่าวว่าเป็นทางจำเป็นด้วยก็ เป็นเพียงข้ออ้างของโจทก์ว่า นอกจากเป็นทางภารจำยอมแล้วก็ยังเป็นทางจำเป็นอีกด้วยเท่านั้นฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
ตามที่จำเลยว่าโจทก์ไม่ได้ใช้ทางพิพาทเป็นทางเดินผ่านตลอดปี แม้โจทก์จะใช้ทางพิพาทมากว่าสืบปีก็ยังไม่เกิดภารจำยอม เห็นว่าโจทก์กับพวกได้ใช้ทางพิพาทเป็นประจำมาเกินกว่าสิบปี ภารจำยอมย่อมเกิดขึ้นเป็นคุณแก่ที่ดินของโจทก์แล้ว การที่โจทก์กับพวกไม่ได้ใช้เดินเฉพาะฤดูที่จำเลยทำนานั้น หาทำให้การใช้ทางเดินนั้นขาดตอนไม่ติดต่อกันได้ไม่ (อ้างฎีกา ที่ ๑๓๑๘/๒๕๐๑)
ที่จำเลยอ้างว่าโจทก์เดินในทางพิพาทโดยถือวิสาสะ จำเลยมิได้นำสืบถึงความข้อนี้ จึงฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย

Share