แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์เพราะคดีขาดอายุความ โดยฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ทราบการกระทำผิดของจำเลยเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2521 โจทก์อุทธรณ์ว่าโจทก์ทราบการกระทำผิดของจำเลยเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2523 คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความนั้น เป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง มาตรา 22
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยนำเช็คที่จงใจลงลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายไม่เหมือนตัวอย่างที่ให้ไว้รวมทั้งไม่มีเงินตามเช็ค มาหลอกลวงขอซื้อสินค้าไปจากโจทก์โดยมอบเช็คดังกล่าวให้โจทก์ไว้เพื่อเป็นการชำระหนี้ ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ววินิจฉัยว่า คดีโจทก์ขาดอายุความให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง มาตรา 22 ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัย ให้ยกอุทธรณ์โจทก์
โจทก์ฎีกาว่าอุทธรณ์ของโจทก์เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ว่า อุทธรณ์ของโจทก์เป็นปัญหาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมาย พิเคราะห์ปัญหาดังกล่าวแล้วเห็นว่าศาลชั้นต้นยกฟ้องโจทก์เพราะคดีโจทก์ขาดอายุความ โดยฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ทราบการกระทำผิดของจำเลยเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2521 โจทก์อุทธรณ์ว่าโจทก์ทราบการกระทำผิดของจำเลยเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2523 เป็นการอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 22 ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์นั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
พิพากษายืน