คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 731-732/2523

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 609 บัญญัติถึงกรณีรับขนของทางทะเล โดยให้บังคับตามกฎหมายและกฎข้อบังคับว่าด้วยการนั้น แต่ขณะเกิดกรณีพิพาท กฎหมายและกฎข้อบังคับว่าด้วยการรับขนของทางทะเลยังไม่มี ดังนั้นอายุความฟ้องร้องในกรณีนี้จึงมีกำหนด10 ปี ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 จะนำอายุความตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 624 ในเรื่องรับขนมาใช้บังคับหาได้ไม่

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า สินค้าที่โจทก์รับประกันภัยทางทะเลไว้ได้สูญหายไปจริง คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าเสียหายให้โจทก์ทั้งสองสำนวนพร้อมดอกเบี้ย จำเลยทั้งสองสำนวนฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ในการขนส่งสินค้าทางทะเลดังกล่าวบริษัทจำเลยเป็นผู้ร่วมรับขนส่งสินค้าช่วงสุดท้ายโดยขนถ่ายจากเรือลงสู่ขึ้นท่าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย และเป็นผู้แจ้งการมาถึงของสินค้าให้แก่บริษัทและห้างหุ้นส่วนซึ่งสินค้าซึ่งเอาประกันไว้กับบริษัทโจทก์ทราบ แล้วบริษัทและห้างหุ้นส่วนเหล่านั้นได้นำใบตราส่งที่บริษัทที่รับขนส่งทางทะเลออกให้มามอบแก่บริษัทจำเลย บริษัทจำเลยได้ออกใบรับของในนามของบริษัทจำเลยให้บริษัทและห้างหุ้นส่วนที่เอาประกันภัยสินค้าไว้กับบริษัทโจทก์ไปรับสินค้าจากโรงเก็บสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทยผู้เอาประกันภัยสินค้าในคดีทั้งสองสำนวนนี้ได้รับสินค้าไปจากโรงเก็บสินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2516 พ.ศ. 2517 และพ.ศ. 2518 โจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2520

จำเลยฎีกาว่า อายุความในเรื่องนี้ควรนำมาตรา 224 (ที่ถูกควรเป็นมาตรา 624) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับ ไม่ควรใช้อายุความ 10 ปี ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าข้อเท็จจริงตามที่ศาลล่างทั้งสองฟังมาดังกล่าวข้างต้น เป็นกรณีเกี่ยวกับการรับขนของทางทะเลซึ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 609 วรรคท้ายได้บัญญัติไว้ว่า “รับขนของทางทะเล ท่านให้บังคับตามกฎหมายและกฎข้อบังคับว่าด้วยการนั้น” แต่ขณะเกิดกรณีพิพาทกันนี้ กฎหมายและกฎข้อบังคับว่าด้วยการรับขนของทางทะเลยังไม่มี ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 บัญญัติว่า “อันอายุความนั้นถ้าไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น ท่านให้มีกำหนดสิบปี” ฉะนั้นอายุความฟ้องร้องในคดีนี้จึงมีกำหนด 10 ปีจะนำอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 624 มาใช้บังคับแก่คดีนี้หาได้ไม่”

พิพากษายืน

Share