คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1603/2479

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การครอบครองโดยปรปักษ์เกินกว่า 10 ปี แม้จะมิได้ไปจดทะเบียนต่อเจ้าพนักงานก็ได้กรรมสิทธิ ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ม.249 ฎีกาอุทธรณ์ โจทก์ได้ยกปัญหาหลายข้อขึ้นโต้เถียงในศาลชั้นต้นแต่ศาลยกข้อโต้เถียงข้อเดียวขึ้นวินิจฉัยให้โจทก์ชนะ ส่วนข้ออื่น ๆ ไม่พูดถึงในชั้นอุทธรณ์ คู่ความก็ไม่ได้โต้เถียงกันในปัญหาข้ออื่นดังนี้ เมื่อศาลอุทธรณ์ตัดสินให้โจทก์แพ้ โจทก์จะยกปัญหาข้ออื่นขึ้นฎีกาไม่ได้

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ชนะคดีจำเลยจึงนำยึดที่นารายพิพาท ผู้ร้อง ๆ คัดค้านว่าที่นารายนี้ ล.ได้ยกให้ผู้ร้องทำกินมาได้ ๑๔ ปีแล้ว ขอให้ถอนการยึด
โจทก์เถียงว่านารายนี้เป็นของ ล.ลูกหนี้โจทก์ ล.ได้ฟ้องผู้ร้องจนศาลมีคำพิพากษาให้ขับไล่ผู้ร้องออกจากที่รายพิพาทแล้ว
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้องโดยวินิจฉัยว่า การยกให้ไม่สมบูรณ์ตามกฎหมายเพราะไม่ได้จดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าผู้ร้องได้ครอบครองมากว่า ๑๐ ปีแล้ว แม้ไม่ได้จดทะเบียนก็ได้กรรมสิทธิ จึงมีคำสั่งให้ถอนการยึด
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้โจทก์ฎีกาได้ฉะเพาะปัญหากฎหมายในข้อที่ว่าผู้ร้องจะได้กรรมสิทธิหรือไม่ ส่วนข้อเท็จจริงที่ว่าผู้ร้องได้แพ้ความ ล.เรื่องที่นารายนี้หรือไม่นั้น เป็นแต่เพียงเป็นปัญหาในศาลชั้นต้น ตกมาในชั้นอุทธรณ์โจทก์ได้ละทิ้งปัญหาข้อเท็จจริงนั้นเสียแล้ว โดยในชั้นแก้อุทธรณ์โจทก์คงเถียงแต่ปัญหาข้อกฎหมายดุจกล่าวแล้วข้อเดียว เห็นว่าตามข้อเท็จจริงผู้ร้องย่อมได้กรรมสิทธิตามประมวลแพ่ง ฯ ม.๑๓๘๒ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share