แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำว่า “เหตุสุดวิสัย” ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 หมายถึง เหตุซึ่งเป็นพฤติการณ์นอกเหนือที่จะขอขยายระยะเวลาได้ก่อนสิ้นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดได้ แม้ทนายจำเลยที่ 1 เจ็บป่วยกะทันหัน แต่ยังมีจำเลยที่ 1 ที่สามารถยื่นคำร้อง ขอขยายระยะเวลาได้ก่อนสิ้นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ความเจ็บป่วยของทนายจำเลยที่ 1 จึงมิใช่เหตุสุดวิสัย
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน ๒๕,๘๕๒,๗๕๘.๙๘ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๑๘ ต่อปี ของต้นเงิน ๑๗,๘๘๕,๓๖๙.๘๕ บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ หากจำเลยทั้งสามไม่ชำระให้ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ ๔๑๕๘๙, ๔๑๕๙๐, ๔๑๕๙๑ และ ๒๗๙๐๐ พร้อมสิ่งปลูกสร้างของจำเลยที่ ๑ ออกขายทอดตลาด หากได้เงินไม่พอชำระหนี้ให้ยึดทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสามออกขายทอดตลาดนำเงิน มาชำระหนี้จนครบ จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์และยื่นคำร้องขอฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งว่า จำเลยที่ ๑ มีเงินเพียงพอที่จะเสียค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์ได้จึงไม่เป็นคนยากจน ยกคำร้อง จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าจำเลยที่ ๑ ยื่นอุทธรณ์คำสั่งพ้นกำหนดระยะเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๕๖ วรรคห้า ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๑
จำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องว่า ทนายจำเลยที่ ๑ ป่วย ทำให้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่ทันภายในกำหนด ขอให้ศาลชั้นต้น รับอุทธรณ์คำสั่งหรืออนุญาตให้ทำอุทธรณ์คำสั่งยื่นต่อศาลใหม่ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า กรณีไม่ถือเป็นเหตุสุดวิสัย ยกคำร้อง ค่าคำร้องเป็นพับ ให้จำเลยที่ ๑ วางค่าธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ภายใน ๑๕ วัน
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า คดีนี้จำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องขอฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนและมีคำสั่งยกคำร้องเมื่อวันที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๔๓ จำเลยที่ ๑ ยื่นอุทธรณ์คำสั่งวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๔๓ ซึ่งพ้นกำหนดระยะเวลา ๗ วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๕๖ วรรคห้า ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องว่า ขอให้ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์คำสั่งเดิมหรืออนุญาตให้ทำอุทธรณ์ คำสั่งยื่นต่อศาลใหม่โดยอ้างเหตุทนายจำเลยที่ ๑ ป่วยเป็นไข้หลอดลมอักเสบ ไม่สามารถยื่นอุทธรณ์คำสั่งได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ ๑ ว่า ความเจ็บป่วยของทนายจำเลยที่ ๑ ดังกล่าวถือเป็นเหตุสุดวิสัยที่ศาลจะอนุญาตให้ขยายระยะเวลาอุทธรณ์แก่จำเลยที่ ๑ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓ หรือไม่ เห็นว่า บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๓ ให้ศาลมีอำนาจออกคำสั่งขยายหรือย่นระยะเวลาตามที่กฎหมายหรือศาลกำหนดไว้ แต่การขยายหรือย่นเวลาเช่นว่านี้ให้กระทำได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษและศาลได้มีคำสั่งหรือคู่ความมีคำขอขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลานั้น เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสุดวิสัย คำว่า เหตุสุดวิสัย ตามบทกฎหมายดังกล่าว หมายถึงเหตุที่ทำให้ศาลไม่สามารถมีคำสั่งให้ขยายระยะเวลาหรือคู่ความไม่สามารถมีคำขอเช่นนั้นขึ้นมาก่อนสิ้นระยะเวลาที่กฎหมายให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ซึ่งเป็นพฤติการณ์นอกเหนือที่จะกระทำได้ก่อนสิ้นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ แม้ทนายจำเลยที่ ๑ จะเจ็บป่วยกะทันหันในช่วงวันที่ ๒๔ ถึง ๒๘ กันยายน ๒๕๔๓ ตามที่อ้างในคำร้องก็ตาม แต่ยังมีจำเลยที่ ๑ ที่สามารถมายื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาได้ก่อนสิ้นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด ความเจ็บป่วยของทนายจำเลยที่ ๑ จึงมิใช่เป็นกรณีที่มีเหตุสุดวิสัยที่ศาลจะขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์คำสั่งให้แก่จำเลยที่ ๑ ได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยที่ ๑ ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.