แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กัญชาจำนวนที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นกัญชาจำนวนเดียวกับที่จำเลยได้มาจากการผลิตการกระทำของ จำเลยเกี่ยวกับกัญชาจำนวนนี้จึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมาย หลายบท
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยผลิตกัญชาโดยเฉพาะปลูกกัญชาอันเป็นยาเสพติดให้โทษ จำนวน 8 ต้น น้ำหนักรวมทั้งสิ้น 2 กิโลกรัม 450 กรัม และจำเลยมีกัญชาจำนวนดังกล่าวกับกัญชาอีก 1 ห่อ หนัก 5.47 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ขอให้ลงโทษ
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้ลงโทษฐานปลูกกัญชาจำคุก 2 ปี และฐานมีกัญชาไว้เพื่อจำหน่าย จำคุก 2 ปี รวมเป็นโทษจำคุก 4 ปีรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 2 ปี ให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 5 ปี
โจทก์อุทธรณ์ไม่ให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าไม่รอการลงโทษ
จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษนั้นเป็นปัญหาข้อเท็จจริง คดีนี้ศาลชั้นต้นจำคุกจำเลยฐานผลิตยาเสพติดให้โทษ (ปลูกกัญชา) และฐานมีกัญชาไว้เพื่อจำหน่าย โดยให้จำคุกไว้กระทงละ 1 ปี รวม 2 ปี โดยให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยเท่าเดิม แม้จะไม่รอการลงโทษจำเลย จำเลยก็ฎีกาในข้อเท็จจริงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 เพราะสิทธิฎีกานั้นต้องถือโทษที่ศาลลงเป็นกระทง ๆ ไป แต่อย่างไรก็ดี กัญชาจำนวน 2 กิโลกรัม850 กรัม ตามฟ้องข้อ (ข) ที่จำเลยไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น เป็นกัญชาที่จำเลยได้มาจากการผลิตตามฟ้องข้อ (ก) การกระทำของจำเลยเกี่ยวกับกัญชาส่วนนี้จึงเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขเสียให้ถูกต้อง ดังนั้นความผิดตามฟ้องข้อ (ข) จำเลยคงมีความผิดเฉพาะกัญชาจำนวน 1 ห่อ หนัก 5.47 กรัมเท่านั้น ส่วนดุลพินิจในการลงโทษนั้นเห็นว่ากัญชาที่จำเลยปลูกจำนวน 8 ต้น ตามฟ้องข้อ (ก) มีทั้งต้น กิ่งก้าน และใบมีน้ำหนักเพียง 2 กิโลกรัม 850 กรัม และกัญชาที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตตามฟ้องข้อ (ข) ก็มีน้ำหนักเพียง 5.47 กรัมเท่านั้น ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก จำเลยมีอายุถึง 56 ปี และได้รับโทษจำคุกมา 2 เดือนเศษแล้ว พอที่จะรู้สึกตัว จึงสมควรรอการลงโทษให้ไว้ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยตามฟ้องข้อ (ข) ฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเฉพาะกัญชาจำนวน 1 ห่อ หนัก 5.47 กรัมเท่านั้น ส่วนกำหนดโทษและการรอการลงโทษคงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์