แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์จำเลยเป็นสามีภรรยากันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส ได้ร่วมกันซื้อที่ดินและปลูกบ้านพิพาทด้วยเงินที่ทำมาหากินได้มาด้วยกันจึงเป็นเจ้าของร่วมกัน ต่อมาจำเลยรื้อบ้านปลูกใหม่ เพราะห้องน้ำและตัวบ้านชำรุด การก่อสร้างใหม่ใช้ส่วนประกอบของบ้านเดิมผสมสร้างด้วยเพื่ออยู่อาศัยและทำการค้าตามเดิม ดังนี้จำเลยในฐานะภรรยาโจทก์และเป็นเจ้าของบ้านร่วมกับโจทก์มีสิทธิจัดการดังกล่าวเพื่อรักษาบ้านให้ถาวรขึ้นได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1358 การกระทำของจำเลยไม่เป็นการละเมิด โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
ที่โจทก์ฎีกาว่า หากศาลเห็นว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของบ้านพิพาทร่วมกันขอให้พิพากษาให้จำเลยใช้ราคาบ้านครึ่งหนึ่งนั้น โจทก์มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาแต่ต้น ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดิน ๑ แปลงแล้วสร้างบ้านเพื่อค้าขาย บ้านและที่ดินเป็นทรัพย์ส่วนตัวของโจทก์ จำเลยเป็นภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียนของโจทก์ได้เข้าอยู่ทำการค้าขายด้วยกัน ต่อมาโจทก์ไม่อยู่กับจำเลย จำเลยรื้อบ้านออกเอาเป็นของส่วนตัวแล้วปลูกอาคารใหม่ลงในที่ดินเพื่อโกงเอาที่ดินโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยใช้ราคาบ้านที่ซื้อ และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแล้วออกไป
จำเลยให้การว่า โจทก์จำเลยสมรสกันแล้วได้นำทรัพย์สินส่วนตัวของจำเลยมาร่วมกับโจทก์ทำการค้าขาย ร่วมซื้อที่ปลูกบ้านเพื่อค้าขายร่วมกัน ต่อมาโจทก์ละทิ้งจำเลยไปสมรสและอยู่กินกับนางสมศรีมาจนบัดนี้ โจทก์ครอบครองที่ดินและบ้านมาฝ่ายเดียว โจทก์สละการครอบครองมาเป็นเวลาเกิน ๑ ปีแล้ว จำเลยได้สิทธิครอบครอง ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่ดินและบ้านพิพาทโจทก์จำเลยร่วมกันซื้อด้วยเงินที่ทำมาหาได้ด้วยกัน เป็นเจ้าของร่วมกัน เหตุที่จำเลยรื้อบ้านพิพาทปลูกใหม่เพราะห้องน้ำและตัวบ้านทรุด การก่อสร้างได้ใช้ไม้เก่า ฝ้า และประตูเหล็กยึดเดิมผสมสร้างด้วย ทั้งนี้ก็เพื่ออยู่อาศัยและทำการค้าดังเดิม จำเลยในฐานะภรรยาโจทก์และเจ้าของบ้านพิพาทร่วมกับโจทก์ย่อมมีสิทธิจัดการดังกล่าวเพื่อรักษาทรัพย์สินให้ถาวรดีขึ้นได้ต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๕๘ การกระทำของจำเลยไม่เป็นการละเมิด โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย
ที่โจทก์ฎีกาว่า หากศาลเห็นว่าโจทก์จำเลยเป็นเจ้าของบ้านพิพาทร่วมกันก็ขอให้พิพากษาให้จำเลยใช้ราคาบ้านครึ่งหนึ่ง ๙,๐๐๐ บาทนั้น เห็นว่าความข้อนี้ โจทก์มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาแต่ต้น จึงไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน