คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2731/2559

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ค่าเช่าห้องพักเป็นดอกผลนิตินัยตาม ป.พ.พ. มาตรา 148 วรรคสาม ในการยึดอสังหาริมทรัพย์นั้น ป.วิ.พ. มาตรา 304 วรรคสอง บัญญัติให้ครอบไปถึงเครื่องอุปกรณ์และดอกผลนิตินัยของอสังหาริมทรัพย์นั้นด้วย เว้นแต่จะได้มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น เมื่อไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นแล้ว การที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ของจำเลยที่ 1 ย่อมครอบไปถึงค่าเช่าอันเป็นดอกผลนิตินัยแห่งทรัพย์นั้นด้วย ไม่ว่าดอกผลนิตินัยนั้นจะมีอยู่ก่อนหรือขณะยึดอสังหาริมทรัพย์ และผู้นำยึดไม่จำต้องแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบถึงความมีอยู่แห่งดอกผลนิตินัยแต่อย่างใด เมื่อโจทก์นำยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างภายใน 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษาแล้วโจทก์ย่อมมีสิทธิขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดค่าเช่าห้องพัก ซึ่งเป็นดอกผลนิตินัยของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกยึดได้ แม้จะพ้นระยะเวลา 10 ปีแล้วก็ตาม กรณีหาใช่เป็นการอายัดทรัพย์เพิ่มเติมเมื่อพ้นระยะเวลาในการบังคับคดีไม่ การบังคับคดีของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 271

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 ในฐานะส่วนตัวและในฐานะทายาทโดยธรรมของนางจารุวรรณ จำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 5 ถึงที่ 8 ในฐานะทายาทโดยธรรมของนางจารุวรรณร่วมกันชำระเงินพร้อมดอกเบี้ยและค่าฤชาธรรมเนียมแก่โจทก์ กับให้ยึดที่ดินโฉนดเลขที่ 27155, 3168, 143896, 143895, 143894, 24772 และ 24769 ตำบลสวนหลวง (ที่ 8 พระโขนงฝั่งเหนือ) อำเภอพระโขนง กรุงเทพมหานคร ที่ดินโฉนดเลขที่ 77961 และ 8229 ตำบลคลองตัน (ที่ 8 พระโขนงฝั่งเหนือ) อำเภอพระโขนง กรุงเทพมหานครและที่ดินโฉนดเลขที่ 118683 ตำบลพระโขนง (ที่ 11 พระโขนงฝั่งเหนือ) อำเภอพระโขนง กรุงเทพมหานคร พร้อมสิ่งปลูกสร้างออกขายทอดตลาดนำเงินชำระหนี้แก่โจทก์หากได้เงินสุทธิน้อยกว่าจำนวนเงินที่ค้างชำระ จำเลยที่ 1 ยังต้องรับผิดชำระส่วนที่ขาดจำนวนอยู่จนครบ คดีถึงที่สุดแล้ว แต่จำเลยดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาโจทก์ขอให้บังคับคดีและนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินจำนอง 10 แปลงพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นอพาร์ตเมนต์ 2 หลัง ของจำเลยที่ 1 ออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์ตามคำพิพากษา
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดี และมีคำสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินค่าเช่าห้องพัก 990 ห้อง ให้แก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ยื่นคำคัดค้าน ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นสอบข้อเท็จจริงจากคู่ความและพิจารณาเอกสารในสำนวนแล้ว เห็นว่า คดีพอวินิจฉัยได้ จึงให้งดไต่สวน แล้วมีคำสั่งให้เพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีและให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการอายัดเงินค่าเช่าห้องพัก 990 ห้อง ตามคำร้องของโจทก์
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ 1 ว่า โจทก์มีสิทธิขอให้อายัดค่าเช่าห้องพักหรือไม่ จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า การยึดอสังหาริมทรัพย์ที่จะครอบไปถึงดอกผลนิตินัยนั้น ดอกผลนิตินัยจะต้องมีอยู่ก่อนหรือในขณะทำการยึดอสังหาริมทรัพย์ และจะต้องแจ้งความมีอยู่แห่งดอกผลนิตินัยนั้นให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบ แต่โจทก์เพิ่งมาแถลงขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดค่าเช่าห้องพักเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2556 อันเป็นการบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของจำเลยที่ 1 เพิ่มเติมเกินกว่า 10 ปี ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 เห็นว่า ค่าเช่าห้องพักที่โจทก์ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเป็นเงินที่ได้มาเป็นครั้งคราวแก่เจ้าของทรัพย์จากผู้อื่นเพื่อการที่ได้ใช้ทรัพย์นั้น ค่าเช่าห้องพักดังกล่าวจึงเป็นดอกผลนิตินัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 148 วรรคสาม ในการยึดอสังหาริมทรัพย์นั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 304 วรรคสอง บัญญัติให้ครอบไปถึงเครื่องอุปกรณ์และดอกผลนิตินัยของอสังหาริมทรัพย์นั้นด้วย เว้นแต่จะได้มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น ฉะนั้นเมื่อไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่นแล้ว การที่โจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างซึ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์ของจำเลยที่ 1 ย่อมครอบไปถึงค่าเช่าอันเป็นดอกผลนิตินัยแห่งทรัพย์นั้นด้วยทั้งตามบทมาตราดังกล่าวกฎหมายมิได้บัญญัติไว้ว่าดอกผลนิตินัยนั้นจะต้องมีอยู่ก่อนหรือในขณะยึดอสังหาริมทรัพย์ และผู้นำยึดจะต้องแจ้งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีทราบถึงความมีอยู่แห่งดอกผลนิตินัยดังที่จำเลยที่ 1 อ้างในฎีกาแต่อย่างใด ดังนั้น การยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวจึงครอบไปถึงค่าเช่าห้องพักที่เกิดขึ้นภายหลังทำการยึดด้วย เมื่อโจทก์นำยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างภายใน 10 ปี นับแต่วันมีคำพิพากษาแล้ว และการยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างนั้นครอบไปถึงค่าเช่าห้องพักด้วยตามบทกฎหมายดังกล่าว โจทก์ย่อมมีสิทธิขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดค่าเช่าห้องพักซึ่งเป็นดอกผลนิตินัยของที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกยึดได้แม้จะพ้นระยะเวลา 10 ปีแล้วก็ตาม กรณีหาใช่เป็นการอายัดทรัพย์เพิ่มเติมเมื่อพ้นระยะเวลาในการบังคับคดีไม่ การบังคับคดีของโจทก์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 ฎีกาของจำเลยที่ 1 ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น ส่วนที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า ค่าเช่าห้องพักที่โจทก์ขออายัดเป็นของบริษัทกฎุมพี จำกัด ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมิใช่ของจำเลยที่ 1 โจทก์จึงไม่มีสิทธิขอให้อายัดนั้น เห็นว่า ตามฎีกาของจำเลยที่ 1 ในตอนแรกยอมรับว่าค่าเช่าห้องพักที่โจทก์ขอให้อายัดเป็นของจำเลยที่ 1 แต่ต่อมาจำเลยที่ 1 กลับอ้างว่าค่าเช่าห้องพักดังกล่าวเป็นของบริษัทกฎุมพี จำกัด จึงขัดแย้งกัน เป็นฎีกาที่ไม่ชัดแจ้ง ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249 วรรคหนึ่ง (เดิม) ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย และไม่จำต้องวินิจฉัยฎีกาข้ออื่นของจำเลยที่ 1 ต่อไปเพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share