คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องหาว่าจำเลยมีไว้เพื่อขายซึ่งยาสูบที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบโดยคำขอท้ายฟ้องระบุอ้างพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 24ซึ่งเป็นบทมาตราความผิดและมาตรา 50 ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนมาตรา 24 มาแล้ว เมื่อศาลฟังว่าจำเลยกระทำความผิดตามมาตรา 24 พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 แม้คำขอท้ายฟ้องโจทก์จะมิได้ระบุอ้างมาตรา 18 พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2512 ซึ่งยกเลิกแก้ไขเพิ่มเติมบัญญัติกำหนดโทษขึ้นใหม่แทนกำหนดโทษในมาตรา 50 เดิม ศาลก็ลงโทษจำเลยตามกำหนดโทษในมาตรา 18 พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2512 ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจมีไว้เพื่อขายซึ่งยาสูบบุหรี่ซิกาแรตตราหัวไก่ที่ผลิตในต่างประเทศจำนวน 2,000 ซอง น้ำหนัก 40,000 กรัม ที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 ซึ่งจำเลยจะต้องมีหน้าที่ปิดแสตมป์ยาสูบคิดเป็นค่าแสตมป์ 6,400 บาท ทั้งนี้จำเลยมิได้รับยกเว้นโดยชอบด้วยกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 19, 24, 44, 49, 50 พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2512 มาตรา 17 ริบบุหรี่ของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า จำเลยมีบุหรี่ของกลางไว้เพื่อจำหน่าย พิพากษาลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 24, 44, 50 พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2512 มาตรา 18 ให้ปรับจำเลย 966,000 บาท ริบบุหรี่ของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยทำผิดพระราชบัญญัติยาสูบตามที่โจทก์ฟ้องแต่โจทก์ขอให้ลงโทษปรับจำเลยเพียง 10 เท่าของค่าแสตมป์ยาสูบตามพระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2512 มาตรา 17 เท่านั้น พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ปรับจำเลย 10 เท่าของค่าแสตมป์ยาสูบตามพระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2512 มาตรา 17เป็นเงิน 64,000 บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายว่า โจทก์ได้อ้างมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาสูบแล้ว แสดงว่าโจทก์ประสงค์ให้ศาลลงโทษจำเลยฐานมียาสูบไว้เพื่อจำหน่ายไม่ได้ปิดแสตมป์ยาสูบ แม้โจทก์จะมิได้อ้างมาตรา 18 พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2512 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มาด้วยศาลก็ลงโทษปรับ 15 เท่า ตามมาตรา 18 พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2512 ได้

ศาลฎีกาได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามฟ้องโจทก์กล่าวมาชัดเจนว่าจำเลยบังอาจมีไว้เพื่อขายซึ่งบุหรี่ซิกาแรตตราหัวไก่ที่มิได้ปิดแสตมป์ยาสูบตามพระราชบัญญัติยาสูบ และคำขอท้ายฟ้องโจทก์ได้ระบุอ้างพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 24 ซึ่งเป็นบทมาตราความผิด และมาตรา 50 ซึ่งเป็นบทกำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนมาตรา 24 มาแล้ว เป็นแต่โจทก์มิได้อ้างพระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2512 มาตรา 18 ซึ่งบัญญัติยกเลิกแก้ไขเพิ่มเติมความในมาตรา 50 มาเท่านั้น ตามความในมาตรา 18 พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2512 ที่บัญญัติขึ้นใหม่ ก็ยังเรียกว่ามาตรา 50 อยู่นั่นเอง การที่โจทก์มิได้ระบุอ้างมาจึงมิทำให้ฟ้องโจทก์ขาดความสมบูรณ์ เมื่อศาลฟังว่าจำเลยกระทำการฝ่าฝืนเป็นความผิดตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 ซึ่งมีโทษกำหนดไว้ในมาตรา 50 แล้วแม้โจทก์จะมิได้ระบุอ้างมาตรา 18 พระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2512 มาในคำขอท้ายฟ้องด้วย ศาลก็ลงโทษจำเลยตามกำหนดโทษในมาตรา 18 แห่งพระราชบัญญัติยาสูบที่กล่าวนี้ได้

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็น ปรับสิบห้าเท่าของค่าแสตมป์ยาสูบที่จะต้องปิด นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share