คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2715/2530

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ความผิดฐานใช้วัตถุระเบิดทำการจับปลากับความผิดฐานมีปลาที่ได้จากการใช้วัตถุระเบิดไว้ในครอบครองเพื่อการค้ากฎหมายบัญญัติไว้ต่างมาตรากันการกระทำของจำเลยแยกออกได้เป็นสองตอนต่างกรรมต่างวาระกัน แม้จะเป็นการกระทำต่อเนื่องกัน ก็ถือว่าเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสามใช้วัตถุระเบิดในที่จับสัตว์น้ำ จำคุกคนละ 1 ปี ฐานร่วมกันมีสัตว์น้ำที่ได้จากการใช้วัตถุระเบิดในความครอบครองเพื่อการค้าจำคุกคนละ 6 เดือน จำเลยฎีกาว่าความผิดทั้งสองฐานนี้ เป็นความผิดแต่เพียงกระทงเดียว
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “พิเคราะห์แล้วเห็นว่าความผิดฐานใช้วัตถุระเบิดทำการจับปลาและความผิดฐานมีปลาที่ได้จากการใช้วัตถุระเบิดไว้ในความครอบครองเพื่อการค้าตามที่โจทก์ฟ้องนั้น กฎหมายได้บัญญัติไว้ต่างมาตรากัน การกระทำของจำเลยทั้งสามดังกล่าวแยกการกระทำออกได้เป็นสองตน ต่างกรรมต่างวาระกัน แม้จะเป็นการกระทำต่อเนื่องกันก็ตาม ก็ต้องถือว่าการกระทำผิดของจำเลยทั้งสามดังกล่าวเป็นการกระทำผิดสองกรรมปัญหาเช่นนี้ศาลฎีกาได้วินิจฉัยไว้แล้วในคำพิพากษาฎีกาที่ 206/2528 พนักงานอัยการจังหวัดตราด โจทก์ นายสมคิด สุขสมมะกับพวกจำเลย ศาลล่างทั้งสองพิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยทั้งสามข้อนี้ฟังไม่ขึ้น ส่วนฎีกาข้ออื่น ๆ ที่ว่าจำเลยที่ 2 ที่ 3เพียงแต่อาศัยมาในเรือหรืออย่างดีก็เป็นเพียงลูกเรือของจำเลยที่ 1 ไม่ควรมีความผิดฐานใช้วัตถุระเบิดจับปลาและฐานมีปลาที่ได้จากการใช้วัตถุระเบิดไว้ในความครอบครอง พยานหลักฐานโจทก์ไม่เพียงพอลงโทษจำเลยทั้งสามในข้อหาดังกล่าวและข้อหามีวัตถุระเบิดบรรจุขวดไว้ในความครอบครอง ล้วนเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลชั้นต้นรับฎีกาดังกล่าวมาจึงไม่ชอบศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
พิพากษายืน”

Share