คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 269/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การจัดเก็บภาษีโรงแรมภัตตาคารและการชำระภาษีตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2489 นั้น ท่านให้เรียกเก็บหรือชำระจากค่าเช่าที่พักในอัตราร้อยละ 20 ของเงินที่โรงแรมภัตตาคารเรียกเก็บเป็นค่าเช่าที่พักแล้วปิดอากรแสตมป์เท่าจำนวนภาษีฉะนั้นการพักโดยมิได้เสียค่าเช่าที่พักก็ย่อมไม่มีจำนวนเงินที่จะออกใบรับและคำนวณค่าภาษีที่จะปิดอากรแสตมป์

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของผู้จัดการโรงแรมยี่ห้อเค่งพังได้เปิดทำการมา 4 ปีแล้วเมื่อมีบุคคลมาพักโรงแรม และชำระค่าเช่าที่พักแก่โจทก์ ๆ ก็จัดการออกใบรับเงิน และปิดอากรมหรสพในใบรับเงินทุกรายครบถ้วนตลอดมา

จำเลยที่ 1 เป็นสรรพากรจังหวัด ได้เรียกเก็บเงินภาษีโรงแรมภัตตาคารจากโจทก์ โดยไม่ชอบ โจทก์จึงไม่ชำระ ต่อมาจำเลยที่ 2 ผู้เป็นนายอำเภอได้บังอาจออกหมายยึดทรัพย์ของโจทก์ เพื่อเอาชำระเงินที่จำเลยที่ 1 เรียกเก็บจากโจทก์ การกระทำของจำเลยเป็นการละเมิดไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้โจทก์เสียหาย จึงขอให้ศาลสั่งว่าการกระทำของจำเลยไม่ชอบ และให้จำเลยถอนการยึดทรัพย์ของโจทก์

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่า โจทก์มิได้ค้างชำระภาษีอากรรายนี้ ไม่มีหนี้ที่จะทำให้จำเลยมีอำนาจยึดทรัพย์ของโจทก์ได้ จึงพิพากษาให้จำเลยถอนการยึดทรัพย์ของโจทก์

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาตรวจสำนวนแล้ว โจทก์ว่าผู้ที่มาพักโรงแรมนั้น โจทก์มิได้เก็บค่าพักทุกคน เช่นเป็นญาติพี่น้อง ผู้คุ้นเคยนับถือ องค์การของรัฐบาล ตลอดจนทหาร แต่ต้องจดชื่อลงในแบบ ร.ร. 4 ทุกคนเพราะตำรวจบังคับให้ลงคนที่ไม่ได้เก็บค่าเช่าก็ไม่ได้ออกใบเสร็จรับเงินและไม่ได้ปิดอากรมหรสพ ซึ่งฝ่ายจำเลยว่า ควรต้องเสียค่าพักและออกใบเสร็จปิดอากรมหรสพทุกราย

ศาลฎีกาได้พิจารณาดูตามพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2489 แล้ว เห็นว่า การจัดเก็บภาษีโรงแรมภัตตาคารก็ดีการชำระภาษีก็ดี ท่านให้เรียกเก็บหรือชำระจากค่าเช่าที่พักในอัตราร้อยละ 20 ของเงินที่โรงแรมภัตตาคารเรียกเก็บเป็นค่าเช่าที่พัก แล้วปิดอากรแสตมป์เท่าจำนวนภาษีดังนี้การพักโดยมิได้เสียค่าเช่าที่พักย่อมไม่มีจำนวนเงินที่จะออกใบรับและคำนวณค่าภาษีที่จะปิดอากรแสตมป์ ฯลฯ

จึงพิพากษายืน

Share