คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2688/2532

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การฟ้องให้จำเลยชำระเงินบำเหน็จแก่โจทก์ถือได้ว่าเป็นการทวงถามเตือนให้จำเลยชำระอยู่ในตัวแล้ว จำเลยจึงตกเป็นผู้ผิดนัด และจะต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยให้แก่โจทก์นับแต่วันผิดนัดเป็นต้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 วรรคแรก

ย่อยาว

คดีทั้งสองสำนวนศาลแรงงานกลางให้รวมการพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกัน โดยเรียกโจทก์ตามลำดับสำนวนว่า โจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 2 โจทก์ทั้งสองสำนวนฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์ที่ 1และโจทก์ที่ 2 เข้าเป็นพนักงานประจำรายวัน โจทก์ทั้งสองได้ลาออกจากงานขณะที่มีอายุการทำงาน 14 ปี และ 9 ปี ตามลำดับ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินบำเหน็จส่วนที่ขาดให้แก่โจทก์ที่ 1 และโจทก์ที่ 2 พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยทั้งสองสำนวนให้การว่า ค่าครองชีพไม่ใช่เงินเดือนหรือค่าจ้าง แต่เป็นเงินที่จำเลยจ่ายเพิ่มจากค่าจ้างอัตราปกติเพื่อเป็นเงินสวัสดิการแก่พนักงานผู้มีรายได้น้อยผู้มีรายได้สูงจะไม่ได้รับ จึงไม่อาจนำค่าครองชีพมารวมกับค่าจ้างปกติเพื่อเป็นฐานคำนวณเงินบำเหน็จ โจทก์ทั้งสองไม่เคยทวงถามค่าครองชีพจำเลยจึงไม่ตกเป็นผู้ผิดนัดอันจะต้องเสียดอกเบี้ยขอให้ยกฟ้อง ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระเงินบำเหน็จที่ขาดแก่โจทก์ที่ 1 จำนวน 5,600 บาท และโจทก์ที่ 2 จำนวน3,600 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยทั้งสองสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “จำเลยอุทธรณ์ข้อสุดท้ายว่าการที่โจทก์ทั้งสองฟ้องต่อศาลแรงงานกลางให้จำเลยชำระเงินบำเหน็จส่วนที่ขาด ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการทวงถามอันจะมีผลให้จำเลยตกเป็นผู้ผิดนัดต้องรับผิดในดอกเบี้ยแก่โจทก์ และหากฟังว่าจำเลยต้องรับผิดก็ควรจะรับผิดตั้งแต่วันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดเป็นต้นไปนั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 204 วรรคแรก ได้บัญญัติไว้เพียงว่าภายหลังจากหนี้ถึงกำหนดชำระ ถ้าเจ้าหนี้ได้ให้คำเตือนลูกหนี้แล้วลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้ ลูกหนี้ย่อมตกเป็นผู้ผิดนัดเพราะเขาเตือนแล้ว(โดยไม่ได้กำหนดรูปแบบคำเตือนไว้ว่าจะต้องทำอย่างไร) การฟ้องศาลให้จำเลยชำระบำเหน็จแก่โจทก์ถือได้ว่าเป็นการทวงถามเตือนให้จำเลยชำระเงินดังกล่าวอยู่ในตัว จำเลยจึงตกเป็นผู้ผิดนัดแล้วและจะต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยให้แก่โจทก์นับแต่วันผิดนัดเป็นต้นไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 วรรคแรก หาใช่เริ่มรับผิดชำระดอกเบี้ยตั้งแต่วันที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดดังที่จำเลยอุทธรณ์ไม่”
พิพากษายืน

Share