คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 899/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามมาตรา 290 จำคุกจำเลยคนละ 4 ปี ศาลอุทธรณ์คงพิพากษาว่าจำเลยผิดตามมาตรา 290 แต่ลดมาตราส่วนโทษให้นายซ้งจำเลยคนหนึ่ง 1 ใน 3 ให้จำคุกจำเลย 2 ปี 8 เดือน นอกนั้นวางโทษจำคุกคนละ 4 ปีและลดมาตราส่วนโทษให้จำเลยคนละ 1 ใน 4 คงเหลือโทษจำคุกนายซ้ง 2 ปี จำเลยนอกนั้นคนละ 3 ปี ดังนี้ ถือว่าแก้น้อย ฎีกาข้อเท็จจริงไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามฐานบังอาจร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๓ และขอให้สั่งริบของกลาง
จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญา มาตรา ๒๙๐ ให้จำคุกจำเลยคนละ ๔ ปี ของกลางริบ
จำเลยทั้งสามอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าแก้ว่าจำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๐ แต่นายซ้งจำเลยอายุยังไม่ครบ ๒๐ ปี ให้ลดมาตราส่วนโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๖ หนึ่งในสาม วางโทษจำคุกนายซ้ง ๒ ปี ๘ เดือน นอกนั้นวางโทษจำคุกคนละ ๔ ปี การกระทำของจำเลยมีเหตุบันเทาโทษได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ ลดโทษที่จะลงแก่จำเลยคนละหนึ่งในสี่คงเหลือโทษจำคุกนายซ้ง ๒ ปี นอกนั้นคนละ ๓ ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตาม คำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสามฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษาเพียงแต่แก้ไขเล็กน้อย จำเลยจึงฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๘ ที่จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงผิดตรงข้ามกับข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามทางพิจารณานั้น พิจารณาแล้วปรากฏว่า ตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า มีเหตุควรเชื่อได้ว่าจำเลยทั้งสามกับพวกอีกหลายคน ได้ไล่ทำร้ายผู้ตายจนถึงแก่ความตายนั้น มีคำพยานโจทก์เบิกความยืนยันว่า จำเลยทั้งสามได้วิ่งไล่และได้ทำร้ายผู้ตายจริง จึงฟังไม่ได้ว่า ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงผิดกับข้อ เท็จจริงที่ปรากฏตามทางพิจารณา ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย

Share