คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2672/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งยกคำร้องของจำเลยที่ขอให้ขายทอดตลาดที่ดินพิพาทของจำเลยใหม่ พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ระงับการจำหน่าย จ่าย โอนที่ดินพิพาทศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องที่ให้ระงับการจำหน่าย จ่าย โอนที่ดินพิพาท คำสั่งของศาลอุทธรณ์ในเรื่องนี้มิใช่คำสั่งอันเกี่ยวกับการขอทุเลาการบังคับตามคำพิพากษาของศาล เพราะได้มีการบังคับคดีไปตามคำพิพากษาโดยการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยแล้ว คำขอของจำเลยต่อศาลอุทธรณ์ เป็นคำขอเพื่อให้ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264 เมื่อศาลอุทธรณ์มีคำสั่งแล้ว จำเลยย่อมมีสิทธิฎีกาได้ตามมาตรา 224(2),247

ย่อยาว

กรณีเนื่องมาจากจำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลแพ่งมีคำสั่งให้เพิกถอนการขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยซึ่งเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ขายไปแล้วและสั่งให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดที่ดินของจำเลยใหม่ ศาลแพ่งพิจารณาแล้วมีคำสั่งยกคำร้องของจำเลย จำเลยอุทธรณ์คำสั่งพร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ระงับการจำหน่าย จ่าย โอนทรัพย์ของจำเลย

ศาลอุทธรณ์เห็นว่าไม่มีเหตุที่จะให้ระงับการจำหน่าย จ่าย โอนที่ดินพิพาทในระหว่างอุทธรณ์ มีคำสั่งให้ยกคำร้อง

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สมควรวินิจฉัยปัญหาตามคำแก้ฎีกาของโจทก์เสียก่อนว่า จำเลยไม่มีสิทธิฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์เพราะเป็นอำนาจของศาลอุทธรณ์โดยเฉพาะในการสั่งเรื่องขอทุเลาการบังคับในระหว่างอุทธรณ์หรือไม่ เห็นว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์ในเรื่องนี้ไม่ใช่คำสั่งอันเกี่ยวกับการขอทุเลาการบังคับตามคำพิพากษาของศาล เพราะได้มีการบังคับคดีไปตามคำพิพากษาโดยการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยแล้ว ข้อที่พิพาทกันในชั้นนี้มีว่าสมควรเพิกถอนการขายทอดตลาดของเจ้าพนักงานบังคับคดีและขายใหม่หรือไม่ คำขอของจำเลยที่ขอให้ศาลอุทธรณ์สั่งระงับการจำหน่ายจ่าย โอน ทรัพย์ที่ขายทอดตลาดไป จึงเป็นคำขอเพื่อให้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งกำหนดวิธีการเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 264เมื่ออ่านคำสั่งของศาลอุทธรณ์แล้ว จำเลยจึงมีสิทธิฎีกาได้ตามมาตรา 228(2),247 แต่ตามฎีกาของจำเลย ก็รับว่าในคำขอคุ้มครองประโยชน์ของจำเลยต่อศาลอุทธรณ์ จำเลยได้อ้างเพียงว่า “จำเลยมีทางชนะคดี หากมีการจำหน่าย จ่าย โอน ทรัพย์สินของจำเลยแล้วจะทำให้คดียุ่งยากมากขึ้น”เท่านั้น ไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงหรือเหตุผลพอที่จะให้ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจได้ว่าคดียุ่งยากมากขึ้นอย่างไรจะให้ศาลอุทธรณ์คาดการณ์หรือเดาเอาเองนั้นย่อมไม่ได้ เพราะไม่ใช่เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่ทั่วไป คำสั่งของศาลอุทธรณ์ชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share