คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 266/2463

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยใช้ธนบัตรปลอมใบละ ๑๐ บาท ๑ ใบโดยจ้างเด็กให้เอาธนบัตรปลอมไปเที่ยวแลกเจ้าพนักงานได้ โจทย์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานใช้ธนบัตรปลอมตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๐๔ หาว่าจำเลยได้รู้สึกอยู่แล้วว่าเปนธนบัตรปลอม ฯ
จำเลยให้การต่อสู้ว่าธนบัตรใบนี้ผู้นำมาซื้อของจำเลย ๆ รับไว้โดยไม่รู้สึกว่าเปนธนบัตรปลอม จึงได้นำไปใช้ ฯ
ศาลจังหวัดราชบุรีพิจารณาลงความเห็นว่า การที่จำเลยเอาธนบัตรใบนี้ออกใช้ จำเลยจะไม่รู้สึกว่าเปนธนบัตรปลอม จึงพิพากษายกฟ้องโจทย์ปล่อยตัวจำเลย ฯ
โจทย์อุทธรณ ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษเห็นว่าจำเลยได้รู้สึกว่าธนบัตรใบนี้เปนธนบัตรปลอมขึ้น จำเลยยังขืนเอาออกจำหน่ายใช้ จำเลยมีความผิด (ฐานใช้ธนบัตรปลอม) ต้องด้วยกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๒๐๔ จึงพิพากษากลับคำพิพากษาเดิมให้จำคุกจำเลยมีกำหนดโทษ ๖ เดือน ฯ
จำเลยทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษในข้อเท็จจริง ฯ
กรรมการศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนแลธนบัตรของกลางแล้วเห็นว่าธนบัตรใบนี้เปนธนบัตรที่ปลอมขึ้นจริง โดยเปนสีเหลืองผิดกับธนบัตรที่แท้ กระดาษก็แข็งแลหนาผิดธรรมดา แลไม่มีลายน้ำในเนื้อกระดาษ ทั้งมีขนาดกว้างยาวกว่าธนบัตรธรรมดา โจทย์นำพยานสืบได้ความประกอบชอบด้วยเหตุผลฟังได้ว่า จำเลยรู้สึกว่าเปนธนบัตรปลอมมาก่อนที่ใช้แล้ว จำเลยหามีพยานมาสืบแสดงเหตุในข้อเจตนาที่จำเลยไม่รู้สึกเปนะนบัตรปลอมไม่ ที่ศาลอุทธรณข้าหลวงพิเศษพิพากษาลงโทษจำเลยดังกล่าวมานั้นชอบด้วยทางพิจารณา แต่กรรมการศาลฎีกาเห็นว่าจำเลยเปนหญิงที่มีอายุ ๕๐ ปีเศษแล้ว ยังไม่เลยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดมาแต่ก่อน คดีรูปนี้สมควรจะภาคทัณฑ์รอการลงอาญาจำเลยไว้ก่อนได้ จึงพร้อมกันพิพากษาให้รอการลงอาญาจำเลยไว้ตามกฎหมายลักษณอาญามาตรา ๔๑-๔๒ นั้น ฯ
วันที่ ๒๘ กรกฎาคม พระพุทธศักราช ๒๔๖๓

Share