คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 171/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดก มิใช่เป็นการฟ้องคดีเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินของกองมรดกไม่อยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ มาตรา 1754

ย่อยาว

ผู้ร้องทั้งสองคนยื่นคำร้องว่า นางเฮี๊ยะ แซ่เอี๊ยว เจ้ามรดกได้ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๔ มิได้ทำพินัยกรรมหรือการจัดการมรดกไว้ นางเฮี๊ยะไม่มีทายาทอื่นคงมีแต่ทายาทชั้นหลานผู้ร้องทั้งสองเป็นหลานอยู่ในฐานะทายาทผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดก ของนางเฮี๊ยะโดยเหตุที่จะต้องรวบรวมทรัพย์มรดกเพื่อแบ่งปันกันในระหว่างทายาท ผู้ร้องทั้งสองไม่สามารถดำเนินการได้โดยลำพัง จึงขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องทั้งสองร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกของนางเฮี๊ยะ แซ่เอี๊ย
นายซ่งเง็ก แซ่เอี๊ยว ยื่นคำร้องคัดค้านว่าผู้คัดค้านเป็นหลานผู้ร้องทั้งสองชอบเล่นการพนัน มีหนี้สินล้นพ้นตัวมิได้มีคุณสมบัติต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๑๘ ทรัพย์มรดกของนางเฮี๊ยะอยู่ในความครอบครองของผู้คัดค้านตลอดมาเป็นเวลาเกิน ๑ ปี พ้นระยะเวลาที่ผู้ร้องทั้งสองและทายาทอื่นจะใช้สิทธิเรียกร้องแล้ว
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าผู้ร้องเป็นทายาทผู้มีสิทธิรับมรดกของนางเฮี๊ยะ แซ่เอี๊ยว ผู้ตายมีคุณสมบัติและสมควรเป็นผู้จัดการมรดกได้ การยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าร้องเกิน ๑ ปีไม่ได้ กรณีนี้ไม่ใช่เป็นการฟ้องคดีมรดกไม่อยู่ในบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๗๕๔ คดีไม่ขาดอายุความมีคำสั่งตั้งให้ผู้ร้องทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกของนางเฮี๊ยะ แซ่เอี๊ย ร่วมกัน
ผู้คัดค้านอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้ผู้ร้องทั้งสองได้ร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้ร้องทั้งสองร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย การร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกนั้นมิใช่เป็นการฟ้องคดีเพื่อใช้สิทธิเรียกร้องในทรัพย์สินของกองมรดกไม่อยู่ใน บังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๕๔ คดีของผู้ร้องจึงไม่ขาดอายุความ
พิพากษายืน

Share