คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 265/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ โจทก์ซึ่งได้รับโอนเช็คพิพาทมาจากผู้ทรงคนก่อนจึงมีฐานะเป็นผู้ทรงตามกฎหมาย ในกรณีเช่นนี้จำเลยผู้ถูกฟ้องในมูลเช็คพิพาทหาอาจจะต่อสู้ผู้ทรงด้วยข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างตนกับผู้ทรงคนก่อนนั้นได้ไม่เว้นแต่การโอนจะมีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 ประกอบด้วยมาตรา 989
โจทก์ฟ้องให้จำเลยในฐานะผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาทรับผิดชำระเงินตามเช็คซึ่งโจทก์ในฐานะเป็นผู้ทรงนำไปขึ้นเงินไม่ได้จำเลยให้การว่า จำเลยนำเช็คพิพาทไปเล่นการพนันไฮโลว์อันเป็นการพนันที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และได้เสียเช็คพิพาทให้แก่ ต. ซึ่งเป็นเจ้ามือโดยมีข้อตกลงว่าจะไม่นำเช็คไปเรียกเก็บเงินแต่จะรอให้ผู้สั่งจ่ายนำเงินสดมาแลกเช็คคืนไป โจทก์จึงมิได้เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายดังนี้คำให้การของจำเลยเพียงแต่กล่าวถึงความเกี่ยวพันระหว่างจำเลยกับ ต.ผู้ทรงคนก่อนเท่านั้นหาได้กล่าวถึงว่าโจทก์กับต.ได้คบคิดกันฉ้อฉลจำเลยไม่จำเลยย่อมไม่มีประเด็นสืบจำเลยซึ่งลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทจึงต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900 ศาลล่างทั้งสองให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยและพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า นายตงไม่ทราบนามสกุลได้นำเช็คธนาคารกสิกรไทย จำกัดสาขาตลาดพลู ซึ่งจำเลยเป็นผู้ลงนามสั่งจ่ายมาชำระหนี้ให้แก่โจทก์ ครั้นเช็คถึงกำหนดโจทก์ได้นำเช็คไปเข้าบัญชีของโจทก์เพื่อเรียกเก็บเงินแต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินอ้างว่า “บัญชีปิดแล้ว” ขอให้พิพากษาบังคับให้จำเลยใช้เงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ย

จำเลยให้การว่า เช็คพิพาทเป็นเช็คที่จำเลยนำไปใช้เล่นการพนัน โดยนำไปแทงไฮโลว์ซึ่งนายตงเป็นเจ้ามือ และได้เสียเช็คดังกล่าวให้นายตงไป เป็นเช็คที่ไม่ได้ลงวันที่มีข้อตกลงกันในระหว่างผู้เล่นว่าจะไม่มีการนำเช็คไปเรียกเก็บเงินแต่จะรอให้ผู้สั่งจ่ายนำเงินสดมาแลกคืนไป เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่ไม่อาจนำมาเรียกร้องให้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย โจทก์มิได้เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย ผู้ทรงที่แท้จริงคือนายตง ขอให้ยกฟ้อง

ในวันนัดชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นเห็นว่าตามคำฟ้องคำให้การคดีพอจะวินิจฉัยได้แล้วโดยไม่ต้องสืบพยาน จึงมีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์จำเลย แล้วพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ยให้โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เช็คพิพาททั้งสี่ฉบับเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ โจทก์ซึ่งได้รับโอนเช็คมาจากผู้ทรงคนก่อนจึงมีฐานะเป็นผู้ทรงตามกฎหมาย ในกรณีเช่นนี้จำเลยผู้ถูกฟ้องในมูลเช็คพิพาทหาอาจจะต่อสู้ผู้ทรงด้วยข้อต่อสู้อันอาศัยความเกี่ยวพันกันเฉพาะบุคคลระหว่างตนกับผู้ทรงคนก่อนนั้นได้ไม่ เว้นแต่การโอนจะมีขึ้นด้วยคบคิดกันฉ้อฉลตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 916 ประกอบด้วยมาตรา 989 แต่ตามคำให้การของจำเลยเพียงแต่กล่าวถึงความเกี่ยวพันกันระหว่างจำเลยกับนายตงผู้ทรงคนก่อนเท่านั้นหาได้กล่าวถึงว่าโจทก์กับนายตงได้คบคิดกันฉ้อฉลจำเลยอย่างไรไม่เมื่อจำเลยมิได้ยกความข้อนี้ขึ้นต่อสู้ไว้ จำเลยก็ย่อมไม่มีประเด็นสืบ จำเลยซึ่งลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเช็คพิพาทจึงต้องรับผิดตามเนื้อความในเช็คนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 900 การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีจึงชอบด้วยกฎหมาย

พิพากษายืน

Share