แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อความตามสัญญาที่ว่า ถ้าโจทก์ต้องเลิกการเช่าด้วยเหตุใดๆ จำเลยต้องคืนเงินค่าตอบแทนที่ได้รับล่วงหน้าให้โจทก์นั้นหมายความถึงกรณีที่มีเหตุจากฝ่ายผู้ให้เช่าหรือการรอนสิทธิจนโจทก์ไม่ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าคุ้มกับค่าเช่าและค่าบำเหน็จที่ให้แก่จำเลย เมื่อปรากฏว่าโจทก์ได้ใช้และได้รับประโยชน์ในตึกที่เช่าจนเกือบจะครบสัญญาแล้วโจทก์จึงส่งคืนตึกที่เช่าให้แก่เจ้าของ โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิเรียกค่าตอบแทนอันเป็นบำเหน็จค่านายหน้าคืนจากจำเลย
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นผู้ชี้ช่องให้โจทก์ได้ทำสัญญาเช่าอาคารเลขที่ 148ถนนสีลมจากเจ้าของ กำหนดการเช่า 3 ปี โจทก์จำเลยได้ทำสัญญากันให้ค่าตอบแทนแก่จำเลยมีสาระสำคัญว่า หากสัญญาเช่าของโจทก์ต้องเลิกไปไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ จำเลยต้องคืนเงินค่าตอบแทนที่ได้รับล่วงหน้าทั้งหมดให้โจทก์ ต่อมาสัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับผู้ให้เช่าเดิมเลิกกันโจทก์รื้อขนย้ายออกหมดและส่งมอบอาคารที่เช่าคืนแก่ผู้ให้เช่า จำเลยต้องคืนค่าตอบแทนที่ได้รับไปล่วงหน้าแก่โจทก์ ขอให้ศาลพิพากษาบังคับ
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นนายหน้าจัดการให้โจทก์ได้ทำสัญญาเช่าตึกกับเจ้าของตึกมีกำหนด 3 ปี สัญญาเช่าตึกจึงได้ทำกันสำเร็จเนื่องแต่ผลที่จำเลยจัดการจำเลยจึงมีสิทธิได้รับค่าบำเหน็จจากโจทก์ ข้อความตามสัญญาเอกสารหมาย จ.3 ว่า ถ้าโจทก์ต้องเลิกการเช่าด้วยเหตุใด ๆ จำเลยต้องคืนเงินค่าตอบแทนที่ได้รับล่วงหน้าให้โจทก์นั้นข้อความดังกล่าวหมายความถึงกรณีที่มีเหตุจากฝ่ายผู้ให้เช่า หรือการรอนสิทธิจนโจทก์ไม่ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินที่เช่าคุ้มกับค่าเช่าและค่าบำเหน็จที่ให้แก่จำเลย คดีนี้โจทก์ได้ใช้และได้รับประโยชน์ในอาคารที่เช่าเป็นเวลานานถึง 2 ปี 8 เดือน จนเกือบจะครบตามสัญญา ต่อจากนั้นโจทก์ส่งคืนตึกที่เช่าให้แก่เจ้าของ จึงไม่มีเหตุที่โจทก์จะมีสิทธิเรียกค่าตอบแทนอันเป็นค่าบำเหน็จนายหน้าคืนจากจำเลย
พิพากษายืน