คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2648/2543

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 2 มิได้ร่วมในการติดต่อซื้อขายกัญชาของกลาง แต่เป็นผู้ช่วยจำเลยที่ 3 ถือกระสอบปุ๋ยบรรจุกัญชาของกลางไปใส่รถเจ้าพนักงานตำรวจและนั่งรถไปด้วยเท่านั้น ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ร่วมครอบครองกัญชาของกลางเนื่องจากกัญชาของกลางยังคงอยู่ในครอบครองของจำเลยที่ 3 ตลอดเวลา จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดฐานร่วมกันมีกัญชาของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย
เมื่อจำเลยที่ 2 มิได้ร่วมด้วยในการติดต่อซื้อขายกัญชาของกลางกับเจ้าพนักงานตำรวจ ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนาร่วมในการจำหน่ายกัญชาของกลาง การที่จำเลยที่ 2 ช่วยถือกระสอบปุ๋ยบรรจุกัญชาของกลางไปใส่รถเจ้าพนักงานตำรวจและนั่งไปในรถจนถูกจับกุมยังไม่อาจถือว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการในความผิดฐานจำหน่ายกัญชาร่วมกับจำเลยที่ 1 และที่ 3 แต่จำเลยที่ 2 รู้ว่ามีกัญชาบรรจุกระสอบปุ๋ยที่ตนถือไป การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 และที่ 3 ในการจำหน่ายกัญชาของกลางอันเป็นการสนับสนุนการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 และที่ 3
แม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ในฐานเป็นตัวการเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 กระทำความผิดในฐานเป็นผู้สนับสนุนศาลก็ลงโทษจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานนี้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันมีกัญชาแห้งอัดแท่งอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 จำนวน 37 แท่ง น้ำหนัก 35.5 กิโลกรัมไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และร่วมกันจำหน่ายกัญชาจำนวนดังกล่าวให้แก่ผู้มีชื่อในราคากิโลกรัมละ 3,500 บาท โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522มาตรา 4, 6, 7, 8, 26, 75, 76, 102, 103 ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 32, 33, 83, 91 และริบของกลาง

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง, วรรคสอง, 75 วรรคหนึ่ง,76 วรรคสอง, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 90 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 75 วรรคหนึ่ง จำคุกคนละ 15 ปี ริบของกลาง

จำเลยทั้งสามอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายืน

จำเลยที่ 2 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีสำหรับจำเลยที่ 1 และที่ 3 ยุติไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1 คงมีปัญหามาสู่การพิจารณาของศาลฎีกาเฉพาะจำเลยที่ 2 ว่า จำเลยที่ 2 ร่วมกระทำความผิดกับจำเลยที่ 1 และที่ 3 ด้วยหรือไม่

พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า ไม่มีพยานโจทก์คนใดเบิกความถึงจำเลยที่ 2 เลยว่า จำเลยที่ 2 เกี่ยวข้องด้วยในการตกลงซื้อขายกัญชาของกลาง การที่จำเลยที่ 2 ขนกัญชาของกลางขึ้นรถเป็นเพียงการรับจ้าง ไม่พอถือว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการในการมีกัญชาของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และร่วมจำหน่ายกัญชาของกลางนั้น ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 มิได้ร่วมในการติดต่อซื้อขายกัญชาของกลาง แต่เป็นผู้ช่วยจำเลยที่ 3 ถือกระสอบปุ๋ยบรรจุกัญชาของกลางไปใส่รถเจ้าพนักงานตำรวจและนั่งรถไปที่ร้านคุณตุ่นด้วยเท่านั้น การที่จำเลยที่ 2 ช่วยถือกระสอบปุ๋ยบรรจุกัญชาของกลางให้จำเลยที่ 3 ซึ่งเดินไปด้วยกันโดยไม่มีพฤติการณ์อื่นประกอบด้วยเช่นนี้ ยังถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ร่วมครอบครองกัญชาของกลางด้วย เนื่องจากกัญชาของกลางยังคงอยู่ในครอบครองของจำเลยที่ 3 ตลอดเวลา จำเลยที่ 2 จึงไม่มีความผิดฐานร่วมมีกัญชาของกลางไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

ส่วนความผิดฐานจำหน่ายกัญชาของกลางนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่า จำเลยที่ 2 ร่วมด้วยในการติดต่อซื้อขายกัญชาของกลางกับเจ้าพนักงานตำรวจ ทั้งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงอื่นใดจากพยานหลักฐานของโจทก์ในอันที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนาร่วมในการจำหน่ายกัญชาของกลางด้วยเช่นนี้ เพียงการช่วยถือกระสอบปุ๋ยบรรจุกัญชาของกลางไปใส่รถเจ้าพนักงานตำรวจและนั่งไปในรถจนถูกจับกุมยังไม่อาจถือว่าจำเลยที่ 2 เป็นตัวการในความผิดฐานนี้ร่วมกับจำเลยที่ 1และที่ 3 อย่างไรก็ตามข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่โจทก์นำสืบว่า สิบตำรวจตรีสุรวัชรเปิดกระสอบปุ๋ยต่อหน้าจำเลยที่ 2 เห็นว่าภายในบรรจุกัญชา จำเลยที่ 2 มิได้นำสืบหักล้าง ทั้งยังรับมาในฎีกาด้วยว่า จำเลยที่ 2รับจ้างขนกัญชาไปส่งที่รถเจ้าพนักงานตำรวจแสดงว่าจำเลยที่ 2 รู้ว่ามีกัญชาบรรจุกระสอบปุ๋ยที่ตนถือไป การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่จำเลยที่ 1 และที่ 3 ในการจำหน่ายกัญชาของกลางอันเป็นการสนับสนุนการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 และที่ 3 แม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ในฐานเป็นตัวการเมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยที่ 2 กระทำความผิดในฐานเป็นผู้สนับสนุนศาลฎีกาก็ลงโทษจำเลยที่ 2 ในความผิดฐานนี้ได้

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง, 75 วรรคหนึ่งประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ให้จำคุก 10 ปีทางนำสืบของจำเลยที่ 2 เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก6 ปี 8 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 1

Share