คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 264/2534

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ และไม่เข้าข่ายที่จะเป็นตั๋วเสีย ทั้งมีการสลักหลังไม่ขาดสาย โจทก์เป็นผู้ครอบครองเช็ค จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยมิได้ให้การว่า โจทก์มิใช่ผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายเพราะเหตุใด จึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบ จำเลยให้การว่า มิได้สลักหลังเช็คพิพาท แต่กลับนำสืบว่าจำเลยสลักหลังเช็คเพียงเพื่อแสดงว่าเช็คพิพาทผ่านห้างหุ้นส่วนมามิใช่สลักหลังเพื่อรับผิดนั้น จึงเป็นการสืบนอกเหนือและขัดกับคำให้การ.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ได้ออกเช็คของธนาคารกสิกรไทยให้แก่ผู้ถือ เพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ มีจำเลยที่ 2 เป็นผู้สลักหลังเมื่อเช็คถึงกำหนด โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงิน แต่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้จำเลยทั้งสองชำระเงินตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การว่า โจทก์เป็นผู้ทรงโดยไม่สุจริต และไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ 2 ไม่เคยเป็นหนี้โจทก์ จำเลยที่ 2 ไม่ได้เป็นผู้สลักหลังเช็ค เช็คตามฟ้องมีการชำระเงินแก่ผู้มีชื่อไปแล้วขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินตามเช็คพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 904 บัญญัติว่า อันผู้ทรงนั้นหมายความว่าบุคคลผู้มีตั๋วเงินไว้ในครอบครอง โดยฐานเป็นผู้รับเงินหรือเป็นผู้รับสลักหลัง ถ้าและเป็นตั๋วเงินสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ ก็นับว่าเป็นผู้ทรงเหมือนกันและมาตรา 905 บัญญัติว่า ภายในบังคับแห่งบทบัญญัติ มาตรา 1008บุคคลผู้ได้ตั๋วเงินไว้ในครอบครอง ถ้าแสดงให้ปรากฏสิทธิด้วยการสลักหลังไม่ขาดสาย แม้ถึงว่าการสลักหลังรายที่สุดจะเป็นสลักหลังลอยก็ตามท่านให้ถือว่าเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย ฉะนั้นเมื่อเช็คพิพาทเป็นเช็คสั่งจ่ายให้แก่ผู้ถือ และไม่เข้าข่ายที่จะเป็นตั๋วเสียตามมาตรา 1008 ทั้งมีการสลักหลังไม่ขาดสาย โจทก์เป็นผู้ครอบครองแล้ว จึงเป็นผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยที่ 2 มิได้ให้การว่าโจทก์มิใช่ผู้ทรงโดยชอบด้วยกฎหมายเพราะเหตุใดจึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบ ส่วนที่จำเลยที่ 2 นำสืบว่า จำเลยที่ 2 กับบิดาโจทก์เป็นหุ้นส่วนกันประกอบธุรกิจรับซื้อเช็ค ต่อมาได้เลิกห้างหุ้นส่วนและแบ่งเช็คที่ได้รับซื้อมาจากลูกค้า เพื่อให้แต่ละคนนำเช็คไปจัดการเอง จำเลยที่ 2 สลักหลังเช็คเพียงเพื่อแสดงว่าเช็คนั้นได้ผ่านห้างหุ้นส่วน มิใช่สลักหลังเพื่อรับผิดนั้นเป็นการนำสืบนอกเหนือและขัดกับคำให้การ เพราะจำเลยที่ 2 ให้การว่ามิได้สลักหลังเช็คพิพาท จึงนำมารับฟังไม่ได้
พิพากษายืน.

Share