แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เจ้าของที่ดินมีโฉนดทำใบมอบฉันทะให้จำเลย เป็นผู้มีอำนาจจัดการสอบเขตต์ที่ดินแทนตน จำเลยกลับขีดฆ่าข้อ
ความว่า ทำการรังวัดสอบเขตต์ที่ดินออกแล้ว เดิมข้อความว่า ทำสัญญาขายกรรมสิทธิที่ดินแทน แล้วนำใบมอบฉัน
ทะนั้นไปทำสัญญาโอนขายกรรมสิทธที่ดินนั้นแก่ผู้อื่นไปย่อมเป็นความผิดฐานปลอมหนังสือ.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยทั้งสองกับนายสำราญบังอาจสมคบกันมีเจตนาทุจริตปลอมหนังสือมอบอำนาจ ซึ่งโจทก์ได้ลงลายมือ
ชื่อเป็นผู้มอบอำนาจให้นายเทพจำเลยที่ ๑ เป็นผู้มีอำนาจจัดการสอบเขตต์ที่ดินโฉนดหมายเลขที่ ๑๐๘๓ แทนโจทก์ จำเลยได้ขีดฆ่าข้อความว่า ทำการรังวัดสอบเขตต์ที่ดินออกแล้วเติมข้อความว่า ทำสัญญาขายกรรมสิทธิและทำสัญญาขาย
กรรมสิทธิที่ดินฯลฯ แล้ว จำเลยได้นำหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวไปใช้ โดยไปทำสัญญาโอนขายที่ดินของโจทก์ดังกล่าวให้
แก่นางทองม้วนไป ฯลฯ ขอให้ลงโทษจำเลย
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้ว สั่งคดีมีมูลเฉพาะจำเลยที่ ๑.
จำเลยที่ ๑ ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามมาตรา ๒๒๓ จำคุกจำเลย ๑ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้ทำปลอมเอกสารโดยขีดฆ่าตกเติมข้อความในใบมอบฉันทะ
เอกสารหมาย ๒ ที่จำเลยทำปลอมนั้นได้เขียนข้อความบริบูรณ์แล้ว โจทก์จึงได้ลงลายมือชื่อไว้ หาใช่โจทก์ลงลายมือชื่อ
เพื่อให้จำเลยเขียนข้อความเพิ่มเติมภายหลังไม่ ยิ่งกว่านั้นจำเลยยังได้ขีดฆ่าและตกเติมเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม ข้อความอันเป็นสาระสำคัญ ทำให้โจทก์เสียหาย เป็นความผิดฐานปลอมหนังสือ จึงพิพากษายืน.