คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2638/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามอุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทแก่ผู้ร้องโดยอ้างเหตุว่าราคาประเมินของสำนักงานโยธาธิการจังหวัดมหาสารคามยังบกพร่อง และผู้ร้องเสนอราคาในการประมูลซื้อต่ำ ขอให้มีการประเมินราคาและขายทอดตลาดใหม่ ศาลอุทธรณ์ภาค 1วินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 ไม่มีสิทธิอุทธรณ์เพราะมิได้ร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทต่อศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27,296 วรรคสองพิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย จำเลยมิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ดังกล่าว แต่กลับฎีกาว่า จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์คัดค้านการประเมินราคาของเจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการจังหวัดมหาสารคามเพราะจำเลยได้คัดค้านการประเมินราคาดังกล่าวไว้แล้ว ดังนี้ เมื่อจำเลยมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองทำให้จำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 1 เสียแล้ว การวินิจฉัยปัญหาตามฎีกาของจำเลยก็มิได้ทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไปได้ฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

ย่อยาว

ตามอุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทแก่ผู้ร้อง โดยอ้างเหตุว่าราคาประเมินของสำนักงานโยธาธิการจังหวัดมหาสารคามยังบกพร่อง และผู้ร้องเสนอราคาในการประมูลซื้อต่ำ ขอให้มีการประเมินราคาและขายทอดตลาดใหม่ ศาลอุทธรณ์ภาค 1วินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 ไม่มีสิทธิอุทธรณ์เพราะมิได้ร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทต่อศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27, 296 วรรคสองพิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลย จำเลยมิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ดังกล่าว แต่กลับฎีกาว่า จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์คัดค้านการประเมินราคาของเจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการจังหวัดมหาสารคามเพราะจำเลยได้คัดค้านการประเมินราคาดังกล่าวไว้แล้ว ดังนี้ เมื่อจำเลยมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296 วรรคสองทำให้จำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 1 เสียแล้ว การวินิจฉัยปัญหาตามฎีกาของจำเลยก็มิได้ทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไปได้ฎีกาของจำเลยจึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัยศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คดีสืบเนื่องมาจากศาลแพ่งขอให้ศาลชั้นต้นบังคับคดีแทนเจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลชั้นต้นได้ยึดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างคือ โรงภาพยนตร์ 1 หลัง ซึ่งเป็นทรัพย์สินของจำเลยที่ 2เพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษา
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าศาลแพ่งอนุญาตให้ผู้ร้องได้รับชำระหนี้บุริมสิทธิจำนองในเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ยึดไว้ดังกล่าว โดยปลอดจำนอง และผู้ร้องขอเข้าสวมสิทธิในการนำเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการขายทอดตลาดในกรณีที่โจทก์หรือผู้แทนโจทก์ไม่นำเจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาด
ศาลชั้นต้นสอบโจทก์แล้ว โจทก์ไม่คัดค้าน จึงอนุญาตตามคำร้องของผู้ร้อง
ก่อนการขายทอดตลาดครั้งที่ 10 ศาลชั้นต้นให้โยธาธิการจังหวัดมหาสารคามประเมินราคาอาคารโรงภาพยนตร์ ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินอันเป็นทรัพย์ที่จะขายทอดตลาดแล้ว ต่อมาวันขายทอดตลาดครั้งที่ 10 จำเลยที่ 2 ได้ยื่นคำแถลงต่อศาลชั้นต้นว่า ราคาประเมินของอาคารโรงภาพยนตร์ที่สำนักงานโยธาธิการจังหวัดมหาสารคามประเมินส่งมาศาลชั้นต้นว่าเป็นเงิน 5,156,000 บาทนั้น ยังมีข้อบกพร่อง ราคาจึงต่ำกว่าราคาตามสภาพของอาคารในปัจจุบันขอให้มีการประเมินราคาใหม่อีกครั้งหนึ่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำแถลงของจำเลยที่ 2 ว่า ไม่มีเหตุที่จะต้องประเมินราคาตามที่จำเลยที่ 2 แถลง และในวันดังกล่าวเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดเป็นครั้งที่ 10 มีผู้เข้าสู้ราคา 1 รายคือผู้ร้อง โดยให้ราคาสูงสุดเป็นเงิน 6,100,000 บาท จำเลยที่ 2คัดค้านว่าราคาต่ำไป แต่ศาลชั้นต้นเห็นว่า การขายทอดตลาดได้กระทำมาหลายครั้งเป็นเวลา 2 ปีเศษ การขายสองครั้งสุดท้ายศาลชั้นต้นกำชับให้จำเลยที่ 2 หาผู้เข้าสู้ราคา แต่จำเลยที่ 2ไม่ดำเนินการโดยไม่ปรากฏเหตุขัดข้องทั้งราคาที่ผู้เข้าสู้ราคาเสนอมาก็ใกล้เคียงกับราคาประเมินของทางราชการ ศาลชั้นต้นจึงอนุญาตให้ขายได้
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 เป็นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทแก่ผู้ร้อง โดยอ้างเหตุว่าราคาประเมินของสำนักงานโยธาธิการจังหวัดมหาสารคาม ยังบกพร่องและผู้ร้องเสนอราคาในการประมูลซื้อต่ำขอให้มีการประเมินราคาและขายทอดตลาดใหม่ ศาลอุทธรณ์ภาค 1วินิจฉัยว่า จำเลยที่ 2 ไม่มีสิทธิอุทธรณ์เพราะมิได้ร้องคัดค้านการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาทต่อศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27, 296 วรรคสอง พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2พิเคราะห์ฎีกาของจำเลยที่ 2 แล้ว จำเลยที่ 2 มิได้ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ดังกล่าว แต่กลับฎีกาว่า จำเลยที่ 2มีสิทธิอุทธรณ์คัดค้านการประเมินราคาของเจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการจังหวัดมหาสารคาม เพราะจำเลยที่ 2 ได้คัดค้านการประเมินราคาดังกล่าวไว้แล้วเห็นว่า เมื่อจำเลยที่ 2มิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 296 วรรคสอง ทำให้จำเลยที่ 2 ไม่มีสิทธิอุทธรณ์ขอให้เพิกถอนการขายทอดตลาดดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 1 เสียแล้วการวินิจฉัยปัญหาตามฎีกาของจำเลยที่ 2 ก็มิได้ทำให้ผลแห่งคดีเปลี่ยนแปลงไปได้ ฎีกาของจำเลยที่ 2 จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยได้
พิพากษายกฎีกาของจำเลยที่ 2

Share