แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายเคยลวนลามภรรยาจำเลยมาแล้วครั้งหนึ่ง วันเกิดเหตุจำเลยกลับจากเก็บถั่วขึ้นไปห้างไร่ของจำเลย เห็นผู้ตายกำลังกอดรั้งตัวภรรยาจำเลยอยู่ จำเลยเกิดโทสะพอจำเลยร้องว่าผู้ตาย ผู้ตายก็ผละออกกระโดดหนีลงจากห้างไร่จำเลยคว้าได้ปืนยาวที่พิงไว้ข้างฝาลงบันไดตามไปยิงผู้ตายที่พื้นดิน ซึ่งขณะนั้นเดินออกไปห่างจากห้างไร่ 3 วากระสุนปืนถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ด้วยความบันดาลโทสะ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเมื่อระหว่างวันที่ 13 สิงหาคม 2512 ถึงวันที่10 กันยายน 2512 เวลากลางวัน จำเลยใช้ปืนแก๊ปยาวยิงนายจุน จันทร์ขำ1 นัด โดยเจตนาฆ่า นายจุนถูกกระสุนปืนถึงแก่ความตาย เหตุเกิดที่ตำบลผาจุก อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และสั่งริบปืนของกลางที่ใช้กระทำความผิด
จำเลยให้การรับว่ายิงนายจุนตายเพราะบันดาลโทสะ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อนำสืบในเรื่องบันดาลโทสะของจำเลยฟังไม่ขึ้น พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้จำคุกตลอดชีวิต ลดโทษตามมาตรา 78 ให้หนึ่งในสามคงจำคุกจำเลย 15 ปี ริบปืนของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยกระทำโดยบันดาลโทสะ พิพากษาแก้ เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 72 จำคุก 6 ปีลดโทษตามมาตรา 78 ให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 3 ปี
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกาขอให้ลดโทษและรอการลงโทษ
ศาลฎีกาวินิจฉัยฟังข้อเท็จจริงได้ตามที่โจทก์จำเลยนำสืบมาว่าก่อนที่นายจุนจะถูกจำเลยยิงตาย นายจุนได้พักอาศัยอยู่กับจำเลยที่ห้างไร่ของจำเลยเพื่อทำไร่ เช้ามืดวันหนึ่งจำเลยไปยิงไก่ยังไม่กลับ นางบัวลอยภรรยาจำเลยยังนอนหลับอยู่ในมุ้ง นายจุนได้มาเขย่าขาเรียกนางบัวลอยที่ข้างมุ้งและขอเข้าไปนอนในมุ้งด้วย นางบัวลอยไม่ยอมและต่อว่าเป็นการดูหมิ่น เมื่อจำเลยกลับมาราว 8.00 นาฬิกาเช้าวันนั้น นางบัวลอยได้เล่าเรื่องให้จำเลยฟัง จำเลยจึงบอกนายจุนให้ไปอยู่ที่อื่น นายจุนขอโทษที่ทำผิดไปแล้วและออกจากห้างไร่ของจำเลยไปอาศัยอยู่ที่บ้านนายสงครามคนละฝั่งแม่น้ำกับบ้านจำเลย วันเกิดเหตุขณะที่จำเลยกับภรรยาอยู่บนห้างไร่ จำเลยเห็นผู้ตายกับพวกเดินมาจำเลยก็ลงจากห้างไร่ไปเก็บถั่ว ราว 3-4 นาที ต่อมากลับขึ้นไปบนห้างไร่ ได้เห็นนายจุนกำลังนั่งยอง ๆ อยู่ข้างนางบัวลอยและใช้มือกอดรั้งตัวนางบัวลอยให้เข้าไปแนบกับตัวนายจุน จำเลยจึงกระโดดขึ้นไปบนห้างพร้อมกับพูดว่า”เอ้าจุนมึงทำไมนั่น กูไม่ให้มึงมาแล้วจะมาทำไมอีก มึงจะเอาให้ได้หรือ นายจุนไม่ตอบ แต่เดินผละไปที่ที่นายจุนเคยนอนเมื่อครั้งอาศัยอยู่ ห่างจากที่กอดนางบัวลอย 2 วา เอายาฉีดฝ้ายแล้วก็โดดลงจากห้างไปทางด้านหน้าจำเลยเกิดโทสะขึ้นมาทันทีเพราะการกระทำของนายจุนเป็นการหยามน้ำใจจำเลย จำเลยได้วิ่งไปคว้าปืนแก๊ปยาวที่ข้างฝาแล้วลงบันไดหน้าห้างไปเห็นนายจุนกำลังเดินจะไปหาพวกนายดำรงห่างจากจำเลยประมาณ 3 วาจำเลยยกปืนขึ้นยิงไปที่นายจุน 1 นัด กระสุนปืนถูกนายจุนล้มลงถึงแก่ความตาย ปัญหาว่าจำเลยได้ยิงนายจุนตายเพราะบันดาลโทสะหรือไม่ รูปคดีฟังได้ตามที่จำเลยนำสืบว่า นายจุนได้ขึ้นมากอดรั้งนางบัวลอยบนห้างไร่ของจำเลยในขณะที่จำเลยลงจากห้างไปชั่วครู่และกลับมาเห็นกำลังกอดรั้งกันอยู่ เมื่อเห็นเช่นนี้จำเลยย่อมมีความโกรธ กระโดดขึ้นบนพื้นห้างจนมีเสียงตึงตังดังไปถึงบรรดาพยานโจทก์ที่อยู่ห่างจากห้าง 3-4 วา นายดำรงค์กับนายสงครามได้ยินจำเลยพูดว่า “เอามึงทำไม อ้ายจุน กูไม่ให้มึงมา มึงยังมาอีก หยามน้ำใจกันมากเกินไป มึงอย่าอยู่เลย” แสดงถึงความโกรธแค้นที่เห็นนายจุนกำลังกอดภรรยาจำเลยอยู่ นายจุนก็ผละจากนางบัวลอยไปที่ข้างฝาห้างแล้วกระโดดลงจากห้างไป ขณะนั้นจำเลยไม่มีอาวุธอยู่ในมือจึงคว้าปืนยาวที่ข้างฝาลงบันไดห้างตามนายจุนไปในทันที ถึงพื้นดินเห็นนายจุนกำลังเดินจะไปที่พวกพยานโจทก์ ก็ได้ยิงนายจุนในขณะที่กำลังมีความรู้สึกโกรธแค้นนายจุนที่มาทำการหยามน้ำใจจำเลยเป็นอย่างมาก เช่นนี้ จึงเห็นว่าจำเลยได้ยิงนายจุนตายเพราะบันดาลโทสะโดยถูกนายจุนข่มเหงน้ำใจอย่างร้ายแรง ด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมควรได้รับโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ สำหรับความผิดของจำเลยตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 72 ที่ศาลอุทธรณ์วางโทษจำคุกจำเลย 6 ปีและยังปรานีลดให้อีกกึ่งหนึ่งเหลือเพียง 3 ปีนั้น เห็นว่าเหมาะสมกับการกระทำและรูปคดีของจำเลยแล้ว ฎีกาของโจทก์จำเลยฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน