คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 263/2504

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เสียหายแจ้งความว่า จำเลยออกเช็คโดยเจตนาไม่ใช้เงิน ขอแจ้งความให้เจ้าพนักงานทราบไว้เป็นหลักฐาน เพราะเกรงจะขาดอายุความ เจ้าพนักงานตำรวจรับแจ้งความไว้ และเรียกจำเลยไปสอบถามบันทึกคำให้การ ต่อมาเรียกคู่กรณีไปเปรียบเทียบแต่ไม่ตกลงกัน ผู้เสียหายจึงฟ้องคดีต่อศาล ดังนี้ถือว่า คำแจ้งความนั้นเป็นการร้องทุกข์ตามกฎหมายแล้ว (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 33/2503 แต่แล้วถอนไป จึงไม่มีการลงมติ)
จำเลยออกเช็คโดยไม่ประทับตราเพื่อให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะไม่ให้มีการจ่ายเงินตามเช็คนั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓
จำเลยปฏิเสธ
ศาลอาญาวินิจฉัยว่าจำเลยออกเช็คโดยไม่ประทับตราตามที่ตกลงไว้กับธนาคารๆ จึงไม่ยอมจ่ายเงินให้แก่โจทก์ ถือได้ว่าจำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค แต่ที่โจทก์ไปแจ้งความไว้ต่อเจ้าพนักงานตำรวจนั้นโจทก์แจ้งไว้เพื่อไม่ให้ขาดอายุความเท่านั้น จึงไม่เป็นคำร้องทุกข์ โจทก์ฟ้องคดีเกิน ๓ เดือน ขาดอายุความพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ว่า คดีไม่ขาดอายุความ
ศาลอุทธรณ์อุทธรณ์วินิจฉัยว่า คำแจ้งความของโจทก์ถือได้ว่าเป็นคำร้องทุกข์ คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๔๙๗ มาตรา ๓ (๑) ลงโทษจำคุก ๓ เดือน
จำเลยฎีกาว่า ไม่ได้ทำผิดและคดีขาดอายุความ
ในปัญหาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้เป็นความผิดอันยอมความกันได้ ต้องจัดการนำคดีขึ้นร้องทุกข์หรือฟ้องเสียภายในกำหนด ๓ เดือน นับแต่วันรู้การกระทำผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด เรื่องนี้โจทก์ไปแจ้งความต่อเจ้าพนักงานตำรวจภายใน ๓ เดือน เจ้าพนักงานจดข้อความที่โจทก์แจ้งความไว้โดยละเอียด และในตอนท้ายได้จดไว้ว่าจำเลยออกเช็คให้โดยเจตนาไม่ใช้เงิน โจทก์ขอแจ้งความให้เจ้าพนักงานทราบไว้เป็นหลักฐานเพราะเกรงจะขาดอายุความ เจ้าพนักงานตำรวจรับแจ้งความไว้และได้เรียกจำเลยไปสอบถามบันทึกคำให้การไว้ด้วย ต่อมาเรียกโจทก์จำเลยไปเปรียบเทียบแต่ไม่ตกลงกัน โจทก์จึงฟ้องศาล ศาลฎีกาเห็นว่าที่โจทก์ไปแจ้งความก็เพื่อไม่ให้คดีขาดอายุความฟ้องร้อง เป็นการแสดงเจตนาที่จะว่ากล่าวเอาผิดแก่จำเลย และเจ้าพนักงานตำรวจก็ได้ทำการสอบสวนต่อ ส่วนที่โจทก์ไม่ขอให้เจ้าพนักงานสอบสวนฟ้องร้องให้ ก็เพราะโจทก์มีความประสงค์จะฟ้องร้องเสียเอง และต่อมาโจทก์ก็ได้นำคดีมาฟ้องต่อศาล ดังนี้ถือได้ว่า ที่โจทก์ไปแจ้งความไปนั้น เป็นการร้องทุกข์เพื่อจะว่ากล่าวเอาโทษแก่จำเลย คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยออกเช็คไม่ประทับตราเพื่อให้ธนาคารจ่ายเงินตามเช็ค ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น
พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์

Share