แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์จำเลยเล่นแชร์วงเดียวกัน จำเลยประมูลแชร์ได้ จึงออกเช็คซึ่งยังมิได้ลงวันเดือนปีที่สั่งจ่ายให้แก่นายวงแชร์ไปมอบให้แก่โจทก์ยึดถือไว้ จึงเป็นการออกเช็คโดยมีเจตนาที่จะให้ผูกพันชำระหนี้ได้ การที่จำเลยมอบเช็คให้แก่นายวงแชร์ ย่อมเป็นการแสดงอยู่ในตัวว่า จำเลยยินยอม ให้ผู้ทรงเช็คลงวันที่ได้เองตามที่เห็นสมควรเพื่อเรียกเก็บ เงินตามเช็คนั้น เมื่อโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมาย ย่อมมีสิทธิลงวันเดือนปีที่สั่งจ่ายในเช็ค เมื่อโจทก์ลง วันสั่งจ่ายในเช็คย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำโดยสุจริตจดวันเดือนปีออกเช็คที่ถูกต้องแท้จริงลงในเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 910 วรรคท้าย,989โดยไม่จำเป็นต้องให้จำเลยรู้เห็นหรือยินยอมอีก จึงเป็นเช็คที่สมบูรณ์ และไม่เป็นการขยายอายุความฟ้องร้อง เพราะอายุความที่โจทก์ผู้ทรงเช็คจะฟ้องร้องเรียกเงินตามเช็คจากผู้สั่งจ่ายต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่เช็คถึงกำหนดหรือวันที่ลงในเช็คตามมาตรา 1002
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้ทรงเช็คธนาคารทหารไทย จำกัดสาขาราชดำเนิน ลงวันที่ 22 มกราคม 2531 สั่งจ่ายเงิน 30,000 บาท มีจำเลยเป็นผู้ลงชายมือชื่อสั่งจ่ายมอบให้แก่ผู้มีชื่อ ผู้มีชื่อส่งมอบให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้ ครั้นถึงกำหนดโจทก์นำเข้าบัญชีโจทก์เพื่อเรียกเก็บเงิน ปรากฏว่าธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์ทวงถามแล้วจำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน 30,375 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงิน 30,000 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์มิได้ใช้สิทธิเรียกร้องตามเช็คนับแต่ที่แชร์ล้มหรือวันสิ้นสุดการเล่นแชร์จนพ้น 1 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความการที่จดแจ้งวันที่ในเช็ควันที่ 22 มกราคม 2531และนำไปเข้าบัญชีนั้นเป็นการกระทำที่ไม่สุจริต เพราะวันที่โจทก์จดแจ้งหาใช่วันตามที่ถูกต้องแท้จริงไม่ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 30,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่22 มกราคม 2531 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่าโจทก์กับจำเลยร่วมกันเล่นแชร์โดยมีนายเศรษฐา ธีระธนาเป็นหัวหน้าวงแชร์ จำเลยประมูลแชร์ได้ จึงออกเช็คจำนวน 15 ฉบับโดยไม่ได้ลงวันเดือนปีที่สั่งจ่ายซึ่งมีเช็คพิพาทรวมอยู่ด้วยให้แก่นายเศรษฐา นายวงแชร์ นายเศรษฐาได้นำเช็คเหล่านั้นไปมอบให้แก่ลูกวงแชร์ที่ยังประมูลไม่ได้ และมอบเช็คพิพาทให้แก่โจทก์ ต่อมาแชร์ล้มก่อนโจทก์ประมูลได้ โจทก์จึงลงวันสั่งจ่ายในเช็คพิพาทเป็นวันที่ 22 มกราคม 2531 แล้วนำไปเรียกเก็บเงินแต่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยฎีกาเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า เมื่อแชร์ล้มก่อนโจทก์ประมูลได้โจทก์มีสิทธิที่จะทวงถามให้ชำระหนี้ได้ตั้งแต่แชร์ล้ม โดยนำเช็คพิพาทไปลงวันที่และเรียกเก็บเงินจากธนาคารตั้งแต่แชร์ล้มเมื่อ พ.ศ. 2528 เป็นต้นไปแต่กลับปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปถึง 2 ปีเศษ จึงนำเช็คพิพาทไปลงวันที่โดยจำเลยมิได้รู้เห็นหรือยินยอมอันเป็นการกระทำโดยไม่สุจริต วันสั่งจ่ายในเช็คพิพาทมิใช่วันสั่งจ่ายที่ถูกต้องแท้จริง เช็คพิพาทไม่สมบูรณ์เป็นตั๋วเงิน และการที่โจทก์นำเช็คพิพาทมาลงวันสั่งจ่ายโดยพลการเช่นนี้เป็นการขยายอายุความฟ้องร้องซึ่งต้องห้ามตามกฎหมายเห็นว่า โจทก์จำเลยเล่นแชร์วงเดียวกันจำเลยประมูลแชร์ได้จึงออกเช็คพิพาทซึ่งยังมิได้ลงวันเดือนปีที่สั่งจ่ายให้แก่นายวงแชร์ไปมอบให้แก่โจทก์ยึดถือไว้ จึงเป็นการออกเช็คโดยมีเจตนาที่จะให้ผูกพันชำระหนี้ได้การที่จำเลยมอบเช็คพิพาทให้แก่นายวงแชร์ ย่อมเป็นการแสดงอยู่ในตัวว่า จำเลยยินยอมให้ผู้ทรงเช็คลงวันที่ได้เองตามที่เห็นสมควรเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คนั้น เมื่อโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายย่อมมีสิทธิลงวันเดือนปีที่สั่งจ่ายในเช็ค เมื่อโจทก์ลงวันสั่งจ่ายในเช็คย่อมถือได้ว่าเป็นการกระทำโดยสุจริตจดวันเดือนปีออกเช็คที่ถูกต้องแท้จริงลงในเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 910 วรรคท้าย, 989 โดยไม่จำเป็นต้องให้จำเลยรู้เห็นหรือยินยอมอีก เช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่สมบูรณ์ และไม่เป็นการขยายอายุความฟ้องร้องแต่อย่างใด เพราะอายุความที่โจทก์ผู้ทรงเช็คจะฟ้องร้องเรียกเงินตามเช็คจากผู้สั่งจ่ายต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่เช็คถึงกำหนดหรือวันที่ลงในเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1002 ที่ศาลล่างพิพากษาต้องกันมานั้นชอบแล้ว”
พิพากษายืน