คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2625/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ระเบียบว่าด้วยการขอเลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปีมิได้กำหนดขีดขั้นไว้ชัดแจ้งว่าการปฏิบัติงานของลูกจ้างอย่างไรจึงจะถือว่าได้ผลสมบูรณ์ตามคุณภาพและปริมาณของงานในตำแหน่งหน้าที่ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องให้อำนาจแก่นายจ้างโดยเฉพาะที่จะพิจารณาใช้ดุลพินิจ เมื่อนายจ้างได้ใช้ดุลพินิจแล้วว่าโจทก์ปฏิบัติงานไม่ได้ผลสมบูรณ์ตามคุณภาพและปริมาณของงานในตำแหน่ง เป็นผู้อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องงดบำเหน็จ จึงเป็นการชอบด้วยระเบียบและเป็นอันยุติตามนั้นลูกจ้างหามีอำนาจฟ้องขอให้ศาลวินิจฉัยสั่งเป็นอย่างอื่นไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นพนักงานของจำเลย โจทก์ได้ปฏิบัติงานในหน้าที่อย่างครบถ้วนและไม่เคยลาหยุด แต่จำเลยไม่เลื่อนเงินเดือนให้ตามระเบียบขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยเลื่อนขั้นเงินเดือนให้โจทก์ 1 ขั้น

จำเลยให้การว่า การให้บำเหน็จความชอบแก่พนักงานเป็นอำนาจของจำเลยโดยเฉพาะ โดยพิจารณาตามระเบียบว่าด้วยการขอเลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปี จำเลยได้พิจารณาโดยชอบแล้วเห็นว่าโจทก์เป็นผู้ปฏิบัติงานไม่ได้ผลสมบูรณ์ตามคุณภาพและปริมาณของงานในตำแหน่งที่โจทก์ดำรงอยู่จึงงดบำเหน็จเลื่อนเงินเดือน 1 ขั้นแก่โจทก์ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ได้ความว่าระเบียบว่าด้วยการขอเลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปีของพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทยพ.ศ. 2504 ข้อ 8 ได้กำหนดไว้ว่า พนักงานผู้ใดอยู่ในหลักเกณฑ์อย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อ 8(1) ถึง (11) ให้งดพิจารณาบำเหน็จ โดยเฉพาะข้อ 8(11) กำหนดหลักเกณฑ์ผู้อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องงดบำเหน็จว่า เป็นผู้ปฏิบัติงานไม่ได้ผลสมบูรณ์ตามคุณภาพและปริมาณของงานในตำแหน่งและหน้าที่ที่ผู้นั้นดำรงอยู่ โจทก์ฟ้องว่าจำเลยไม่เลื่อนขั้นเงินเดือนให้โจทก์ตามระเบียบว่าด้วยการขอเลื่อนขั้นเงินเดือนประจำปีของพนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2504 อ้างว่าโจทก์เป็นผู้ปฏิบัติงานไม่ได้ผลสมบูรณ์ตามคุณภาพและปริมาณของงานในตำแหน่งหน้าที่ตามข้อ 8(11) ซึ่งไม่เป็นความจริง ความจริงโจทก์ได้ทำงานที่ได้รับมอบหมายด้วยความวิริยะอุตสาหะได้ผลตามเป้าหมายครบถ้วนทุกประการ มิได้มีความเสียหายหรือบกพร่อง จึงมีสิทธิได้รับการเลื่อนขั้นเงินเดือน 1 ขั้น ศาลฎีกาเห็นว่า การปฏิบัติงานของพนักงานการท่าเรือผู้ใดได้ผลสมบูรณ์ตามคุณภาพและปริมาณของงานในตำแหน่งหน้าที่ตาม ข้อ 8(11) หรือไม่ ระเบียบดังกล่าวมิได้กำหนดขีดขั้นไว้ชัดแจ้ง จึงเป็นเรื่องให้อำนาจแก่จำเลยโดยเฉพาะที่จะพิจารณาใช้ดุลพินิจ เมื่อจำเลยได้พิจารณาใช้ดุลพินิจแล้วว่าโจทก์ปฏิบัติงานไม่ได้ผลสมบูรณ์ตามคุณภาพและปริมาณของงานในตำแหน่งเป็นผู้อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องงดบำเหน็จจึงเป็นการชอบด้วยระเบียบและเป็นอันยุติตามนั้น โจทก์หามีอำนาจฟ้องขอให้ศาลวินิจฉัยสั่งเป็นอย่างอื่นไม่ และเมื่อโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องดังกล่าวแล้วก็ไม่จำต้องสืบพยานต่อไป ศาลแรงงานกลางงดสืบพยานโจทก์จำเลยเสีย แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

พิพากษายืน

Share