คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2622/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปรากฏในสัญญาประนีประนอมยอมความว่าจำเลยได้ชำระเงินงวดแรกให้แก่โจทก์ต่อหน้าศาลในวันทำสัญญา เมื่อโจทก์ไม่มาศาลในวันทำสัญญาประนีประนอมยอมความย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้มอบหมายให้ทนายโจทก์รับเงินงวดแรกแทนโจทก์ด้วยและการรับเงินในกรณีเช่นนี้กฎหมายมิได้บังคับว่าจะต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ ทั้งมิใช่การรับเงินจากศาลอันจะต้องทำเป็นหนีงสือ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 63 การที่จำเลยชำระเงินงวดแรกให้แก่ทนายโจทก์ต่อหน้าศาลจึงผูกพันโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้.

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยขอแบ่งมรดกและเพิกถอนพินัยกรรมระหว่างการพิจารณา คู่ความตกลงทำสัญญาประนีประนอมยอมความและศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมแล้ว ต่อมาโจทก์ยื่นคำร้องว่า จำเลยต้องจ่ายเงินให้แก่โจทก์ในวันทำสัญญาประนีประนอมยอมความจำนวน ๑๘๕,๐๐๐ บาท แต่โจทก์ไม่ได้รับเงิน ขอให้ศาลบังคับคดีกับจำเลย
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ทนายโจทก์ซึ่งมีอำนาจประนีประนอมยอมความกับจำเลยแทนโจทก์ ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยและรับเงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลแทนโจทก์เป็นเงิน ๑๘๕,๐๐๐ บาท แต่โจทก์ไม่ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวจากทนายความ แล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่าทนายโจทก์มีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความแทนโจทก์ได้ และปรากฏในสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นเองว่าจำเลยได้ชำระเงินงวดแรกให้แก่โจทก์ต่อหน้าศาลในวันทำสัญญา เมื่อโจทก์ไม่มาศาลในวันทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อสัญญายอมเช่นนี้ย่อมชี้ให้เห็นเจตนาของโจทก์และทนายโจทก์ชัดแจ้งแล้วว่าตัวโจทก์ได้มอบหมายให้ทนายโจทก์ได้รับเงินงวดแรกที่จำเลยชำระต่อหน้าศาลด้วย เพราะมิฉะนั้นจะให้จำเลยชำระเงินดังกล่าวให้แก่ใครในเมื่อตัวโจทก์ไม่ได้มาศาล จะให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ภายหลังหรือวางไว้ที่ศาลก็ไม่ตรงกับสัญญาประนีประนอมยอมความจึงถือได้ว่าโจทก์ได้มอบหมายให้ทนายโจทก์รับเงินงวดแรกแทนโจทก์ด้วยและการรับเงินในกรณีเช่นนี้กฎหมายมิได้บังคับว่าจะต้องทำเป็นหนังสือ หรือมีหลักฐานเป็นหนังสือทั้งมิใช่การรับเงินจากศาลอันจะต้องทำเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๖๓ ฉะนั้นการที่จำเลยชำระเงินงวดแรกแก่ทนายโจทก์ต่อหน้าศาลเช่นนี้จึงผูกพันโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๘๑๖/๒๕๒๒ ระหว่าง นายบัว สีสดงาม โจทก์นายรัตนพิมล วรพิสิษฐ์ จำเลย ซึ่งโจทก์อ้างนั้น เป็นคดีอาญาซึ่งทนายความถูกฟ้องข้อหายักยอกเงินที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาของตัวความชำระแก่ทนายความนอกศาล จึงไม่อาจนำมาปรับแก่คดีนี้ได้
พิพากษายืน.

Share