แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
แม้ใบทะเบียนการสมรสมิได้ประทับตรานายทะเบียน ก็หาทำให้ทะเบียนการสมรสไม่สมบูรณ์หรือเป็นโมฆะไม่ เพราะ พ.ร.บ.การจดทะเบียนครอบครัวฯ กำหนดเพียงให้นายทะเบียนลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ มิได้มีบทบัญญัติว่าต้องประทับตรานายทะเบียนแต่อย่างใด เมื่อจำเลยและ ก. จดทะเบียนสมรสในปี 2534 ขณะที่โจทก์และ ก. จดทะเบียนสมรสอยู่ก่อนแล้ว และยังมิได้มีการจดทะเบียนหย่า การสมรสระหว่างจำเลยกับ ก. จึงตกเป็นโมฆะ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์กับนายกิตติ อินทรเสน เป็นสามีภริยาถูกต้องตามกฎหมาย จดทะเบียนสมรสเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๒๔ ระหว่างอยู่กินไม่มีบุตรด้วยกัน และเมื่อประมาณปลายปี ๒๕๔๐ โจทก์ทราบว่านายกิตติจดทะเบียนสมรสกับจำเลยโดยจำเลยรู้ว่าโจทก์เป็นภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายของนายกิตติ โจทก์ได้แจ้งให้จำเลยและนายกิตติไปจดทะเบียนหย่า แต่บุคคลทั้งสองเพิกเฉย โจทก์ไม่มีวิธีอื่นใดจะบังคับจำเลยได้ ขอให้พิพากษาให้การจดทะเบียนสมรสระหว่างจำเลยกับนายกิตติ อินทรเสน เป็นโมฆะ
จำเลยให้การว่า โจทก์กับนายกิตติจดทะเบียนสมรสเมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๒ และจดทะเบียนหย่าเมื่อวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๔ และจำเลยได้จดทะเบียนสมรสกับนายกิตติ เมื่อวันที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๓๔ จริง ระหว่างอยู่กินมีบุตรด้วยกัน ๑ คน ส่วนการสมรสระหว่างโจทก์กับนายกิตติ เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๒๔ ไม่มีลายมือชื่อหรือตำแหน่งเจ้าหน้าที่ลงชื่อกำกับรับรอง ทำให้การสมรสระหว่างโจทก์กับนายกิตติไม่สมบูรณ์ และตกเป็นโมฆะ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้การสมรสระหว่างจำเลยกับนายกิตติ อินทรเสน ตกเป็นโมฆะ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า โจทก์และนายกิตติจดทะเบียนสมรส เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๒๔ มิได้ประทับตรานายทะเบียน ก็มิได้ทำให้ทะเบียนการสมรสไม่สมบูรณ์หรือเป็นโมฆะ เพราะพระราชบัญญัติการจดทะเบียนครอบครัวพุทธศักราช ๒๔๗๘ กำหนดเพียงแต่ให้นายทะเบียนลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญเท่านั้น มิได้มีบทบัญญัติว่าต้องประทับตรานายทะเบียนแต่อย่างใด เมื่อจำเลยและนายกิตติจดทะเบียนสมรสในปี ๒๕๓๔ ขณะที่โจทก์และนายกิตติจดทะเบียนสมรสอยู่ก่อนแล้ว และยังมิได้มีการจดทะเบียนหย่า การสมรสระหว่างจำเลยและนายกิตติจึงตกเป็นโมฆะ
พิพากษายืน.