แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำสัญญาจ้างแรงงานกับโจทก์แทนบริษัทท.ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศต่อมาบริษัทท. ผิดสัญญาจ้างแรงงานกับโจทก์ขอให้จำเลยคืนเงินค่าใช้จ่ายซึ่งจำเลยรับไปจากโจทก์จำเลยให้การรับว่าได้ลงลายมือชื่อในสัญญาจ้างแรงงานกับโจทก์จริงเพียงแต่ปฏิเสธความรับผิดโดยอ้างเหตุอื่นจึงเป็นคดีพิพาทด้วยสิทธิหรือหน้าที่ตามสัญญาจ้างแรงงานหรือข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามที่บัญญัติไว้ในพ.ร.บ.จัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ.2522มาตรา8(1)คดีจึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแรงงาน ป.วิ.พ.มาตรา173วรรคสองห้ามโจทก์ยื่นคำฟ้องเรื่องเดียวกันต่อศาลอีกเฉพาะกรณีที่คดีนั้นอยู่ในระหว่างการพิจารณาเท่านั้นเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าขณะที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้ศาลแรงงานกลางอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องคดีที่โจทก์ฟ้องก่อนไปแล้วคดีนั้นจึงไม่อยู่ในระหว่างการพิจารณาแม้จำเลยจะมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลแรงงานกลางในคดีนั้นแต่เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้อุทธรณ์คำสั่งจะถือว่าคดีก่อนอยู่ในระหว่างการพิจารณาหาได้ไม่ฟ้องของโจทก์ไม่ต้องห้าม จำเลยได้รับมอบอำนาจจากบริษัทตัวการซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศให้ทำสัญญาจ้างแรงงานกับโจทก์ไม่ว่าจำเลยจะได้รับมอบอำนาจเฉพาะการหรือรับมอบอำนาจทั่วไปก็ตามจำเลยย่อมเป็นตัวแทนของบริษัทตัวการแม้ว่าจำเลยจะได้รับอนุญาตให้เป็นผู้จัดหาคนงานตามพ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางานพ.ศ.2528ก็ไม่ทำให้ฐานะความเป็นตัวแทนของจำเลยเปลี่ยนแปลงไปการที่บริษัทตัวการจัดให้โจทก์เข้าทำงานได้ในเดือนแรกส่วนเดือนต่อๆมาโจทก์มิได้ทำงานและมิได้รับค่าจ้างโดยมิใช่เป็นความผิดของโจทก์จะถือว่าบริษัทตัวการได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาจ้างแรงงานแล้วหาได้ไม่เมื่อบริษัทตัวการผิดสัญญาต่อโจทก์จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนในประเทศไทยต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาจ้างแรงงานแต่ลำพังตนเองตามป.พ.พ.มาตรา824.
ย่อยาว
คดีทั้งสิบเอ็ดสำนวนนี้ โจทก์ฟ้องว่า บริษัทโทเนียยา คัมปะนีฟอร์ คอนแทรคติ้ง แอนด์เทรด จำกัด ตั้งขึ้นตามกฎหมายแห่งราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย ตั้งอยู่ที่เมืองเจดดาห์ประเทศซาอุดิอาระเบีย ได้มอบอำนาจให้จำเลยเป็นตัวแทนในประเทศไทยโดยให้มีอำนาจจัดการงานทั้งปวง ตลอดจนลงลายมือชื่อในเอกสารและสัญญาจัดหาคนงานแทนบริษัทได้เมื่อเดือนมกราคม 2528 โจทก์ติดต่อจำเลยเพื่อเข้าทำงานเป็นลูกจ้างของบริษัทโทเนียยาฯ จำเลยตกลงทำสัญญาจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างของบริษัทดังกล่าวโดยกำหนดตำแหน่งหน้าที่ อัตราค่าจ้างซึ่งโจทก์จะได้รับและกำหนดระยะเวลาการจ้าง 2 ปีจำเลยได้เรียกค่าใช้จ่ายและค่าบริการจากโจทก์ ต่อมาปรากฏว่าบริษัทโทเนียยาฯ ไม่มีงานให้โจทก์ทำ เป็นการผิดสัญญาขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยคืนเงินค่าใช้จ่ายให้โจทก์
จำเลยทั้งสิบเอ็ดสำนวนให้การว่า คดีไม่อยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลแรงงาน โจทก์เคยฟ้องจำเลยกรณีเดียวกันแล้ว ต่อมาโจทก์ขอถอนฟ้อง ศาลแรงงานกลางอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องโดยมิได้สอบถามจำเลยก่อน เป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมายซึ่งจำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ได้โจทก์ฟ้องคดีนี้ในระหว่างอายุอุทธรณ์ จึงเป็นฟ้องซ้อน จำเลยไม่ใช่ตัวแทนของบริษัทโทเนียยา คัมปะนี ฟอร์ คอนแทรคติ้ง แอนด์ เทรด จำกัดจำเลยไม่ต้องรับผิดคืนเงินค่าใช้จ่ายให้โจทก์ ขอให้ศาลพิพากษายกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่า ฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องซ้อนศาลแรงงานกลางมีอำนาจพิจารณาคดีนี้ จำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทที่มีภูมิลำเนาอยู่ต่างประเทศ เมื่อบริษัทตัวการผิดสัญญา จำเลยต้องรับผิดแทนบริษัทตัวการ พิพากษาให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์
จำเลยทั้งสิบเอ็ดสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า “มีปัญหาต้องวินิจฉัยข้อแรกว่า ฟ้องของโจกท์เป็นคดีซึ่งอยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลแรงงานหรือไม่ พิเคราะห์แล้ว โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยทำสัญญาจ้างแรงงานกับโจทก์แทนบริษัทโทเนียยา คัมปะนี ฟอร์คอนแทรคติ้งแอนด์ เทรด จำกัด ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ต่างประเทศ ต่อมาบริษัทดังกล่าวผิดสัญญาจ้างแรงงานต่อโจทก์ จึงขอให้จำเลยคืนเงินค่าใช้จ่ายซึ่งจำเลยรับไปจากโจทก์ จำเลยก็ให้การรับว่า จำเลยได้ลงลายมือชื่อในสัญญาจ้างแรงงานกับโจทก์จริงเพียงแต่ปฏิเสธความรับผิดโดยอ้างเหตุอื่น ฉะนั้น จึงเห็นได้ชัดว่าเป็นคดีพิพาทด้วยสิทธิหรือหน้าตามที่สัญญาจ้างแรงงานหรือข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา (8)1 คดีจึงอยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลแรงงาน ส่วนจำเลยและจะต้องรับผิดต่อโจทก์ในกรณีที่ทำสัญญาจ้างแรงงานกับโจทก์หรือไม่ หรือรับผิดเท่าใดเป็นอีกกรณีหนึ่งมิได้หมายความว่าเมื่อจำเลยปฏิเสธความรับผิดแล้ว คดีไม่อยู่ในอำนาจการพิจารณาพิพากษาของศาลแรงงาน
มีปัญหาต้องวินิจฉัยต่อไปว่า ฟ้องของโจกท์เป็นฟ้องซ้อนหรือไม่ข้อเท็จจริงได้ความเป็นยุติว่า โจทก์เคยฟ้องจำเลยเรื่องเดียวกันนี้ครั้งหนึ่งแล้วตามคดีหมายเลขดำที่ 7397 ถึง 7407/2528 หมายเลขแดงที่ 1210 ถึง 1220/2529 ของศาลแรงงานกลาง ต่อมาโจทก์ขอถอนฟ้องศาลแรงงานกลางอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องโดยมิได้สอบถามจำเลย จากนั้นโจทก์ฟ้องจำเลยใหม่เป็นคดีนี้ในระหว่างอายุอุทธรณ์ของคดีนั้น
ศาลฎีกาเห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173วรรคสอง บัญญัติว่า “นับแต่เวลาที่ได้ยื่นคำฟ้องแล้ว คดีนั้นอยู่ในระหว่างการพิจารณา และผลแห่งการนี้ (1) ห้ามไม่ให้โจทก์ยื่นคำฟ้องเรื่องเดียวกันนั้นต่อศาลเดียวกันหรือต่อศาลอื่นและ” ตามบทบัญญัติดังกล่าวเห็นได้ชัดว่า กฎหมายห้ามโจทก์ยื่นคำฟ้องเรื่องเดียวกันต่อศาลอีกเฉพาะกรณีที่คดีนั้นอยู่ในระหว่างการพิจารณาเท่านั้นเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าในขณะที่โจทก์ยื่นฟ้องคดีนี้นั้นศาลแรงงานกลางอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องไปแล้ว คดีนั้นจึงไม่อยู่ระหว่างการพิจารณา แม้จำเลยจะมีสิทธิ์อุทธรณ์คำสั่งศาลแรงงานกลางในคดีนั้น เมื่อไม่ปรากฏว่าจำเลยได้อุทธรณ์คำสั่งจะถือว่าคดีนั้นอยู่ในระหว่างการพิจารณาหาได้ไม่ ฟ้องของโจทก์ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 วรรคสอง (1)ไม่เป็นฟ้องซ้อน
ส่วนปัญหาที่ว่า จำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทโทเนียยา คัมปะนีฟอร์ คอนแทรคติ้ง แอนด์ เทรด จำกัด หรือไม่ และจำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ จำเลยทั้งสิบเอ็ดสำนวนอุทธรณ์ว่า ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าจำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทโทเนียยา คัมปะนี ฟอร์คอนแทรคติ้ง แอนด์ เทรด จำกัด โดยจำเลยมิได้ให้การรับและคดียังไม่สืบพยาน ไม่มีข้อเท็จจริงที่ยุตินั้น เป็นการวินิจฉัยขัดต่อพยานหลักฐานที่มีอยู่ในสำนวน อีกประการหนึ่งคู่่ความยังไม่ยอมรับข้อเท็จจริง จึงยังไม่มีข้อเท็จจริงซึ่งจะวินิจฉัยว่าฝ่ายใดผิดสัญญาจ้างแรงงาน และจะถือว่าบริษัทตัวการผิดสัญญาจ้างแรงงานแล้วหาได้ไม่ จำเลยไม่ต้องรับผิด
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า แม้จำเลยจะปฏิเสธว่าจำเลยมิได้เป็นตัวแทนของบริษัทดังกล่าว แต่จำเลยก็ยอมรับในคำให้การว่า จำเลยได้รับมอบอำนาจจากบริษัทโทเนียยา คัมปะนี ฟอร์ คอนแทรคติ้ง แอนด์เทรด จำกัด และได้ลงลายมือชื่อในสัญญาจ้างแรงงานแทนบริษัทดังกล่าวในฐานะผู้รับมอบอำนาจ ฉะนั้น ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าจำเลยเป็นตัวแทนของบริษัทโทเนียยา คัมปะนี ฟอร์ คอนแทรคติ้ง แอนด์ เทรดจำกัด นั้น เป็นการยกข้อเท็จจริงดังกล่าวปรับกับบทกฎหมายซึ่งศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลแรงงานกลางว่า กรณีที่จำเลยได้รับมอบอำนาจจากบริษัทตัวการซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่ต่างประเทศ แล้วจำเลยทำสัญญาจ้างแรงงานกับโจทก์แทนบริษัทตัวการ ไม่ว่าจำเลยจะได้รับมอบอำนาจแตเฉพาะการหรือรับมอบอำนาจทั่วไปก็ตาม จำเลยย่อมเป็นตัวแทนของบริษัทตัวการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 797 ทั้งสิ้น การที่จำเลยได้รับอนุญาตให้เป็นผู้จัดหาคนงานตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 ไม่ทำให้ฐานะของจำเลยเปลี่ยนแปลงโดยไม่เป็นตัวแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ไปได้
ส่วนปัญหาที่ว่า บริษัทโทเนียยา คัมปะนี ฟอร์ คอนแทรคติ้งแอนด์ เทรด จำกัด ผิดสัญญาจ้างแรงงานต่อโจทก์หรือไม่ แม้ข้อเท็จจริงจะยังโต้เถียงกันก็ตาม แต่ตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลแรงงานกลางลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2529 จำเลยแถลงรับข้อเท็จจริงว่า เดือนแรกที่โจทก์ไปถึงประเทศซาอุดิอาระเบีย บริษัทตัวการจัดให้โจทก์เข้าทำงานตามตำแหน่งและอัตราค่าจ้างที่กำหนดไว้ในสัญญา แต่ในเดือนต่อมาบริษัทตัวการหมดเงินทุนดำเนินการ จึงร้องขอให้โจทก์ทำงานไปพลางก่อนแต่โจทก์ไม่ยอมและหยุดงานรัฐซึ่งเป็นเจ้าของโครงการจึงผิดโครงการเสีย ดังนี้เห็นว่าแม้ข้อเท็จจริงจะฟังดังที่จำเลยแถลงแต่การที่บริษัทตัวการไม่อาจให้โจทก์ทำงานต่อไปได้ตามปกติจนครบกำหนดตามสัญญาจ้างแรงงาน ถือได้ว่าบริษัทตัวการผิดสัญญา การที่บริษัทตัวการจัดให้โจทก์เข้าทำงานในเดือนแรกส่วนเดือนต่อ ๆ มาโจทก์มิได้เข้าทำงานและมิได้รับค่าจ้าง โดยมิใช่ความผิดของโจทก์จะถือว่าบริษัทตัวการได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนตามสัญญาจ้างแรงงานแล้วหาได้ไม่ เมื่อบริษัทตัวการผิดสัญญาต่อโจทก์ จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนในประเทศไทยต้องรับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาจ้างแรงงานแต่ลำพังตนเองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 824 ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยคืนค่าใช้จ่ายซึ่งจำเลยเรียกเก็บจากโจทก์นั้นชอบแล้ว”
พิพากษายืน.