คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2615/2519

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้ตายถูกต่อยเซไปเพราะเข้าไปห้ามมิให้คนสองฝ่ายทะเลาะกัน แล้วจำเลยวิ่งเข้าไปแทงผู้ตายฝ่ายเดียว พฤติการณ์เช่นนี้หาใช่เป็นการฉุกละหุกจนจำเลยไม่อาจกำหนดแน่ได้ว่าจะแทงให้ถูกผู้ตายตรงไหนไม่ได้ไม่ การที่จำเลยแทงถูกชายโครงด้านซ้ายของผู้ตายเห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะแทงให้ถูกผู้ตายตรงอวัยวะสำคัญ ผู้ตายมีบาดแผลเป็นรูปปีกกายาวประมาณ 4.5 เซนติเมตร ทะลุเข้าปอดและทะลุช่องท้องไปถูกม้าม แสดงว่าจำเลยจ้วงแทงจากเบื้องสูงลงไปโดยแรงด้วยเหล็กขูดชาร์ฟยาว 21 เซนติเมตร แม้จะแทงเพียงทีเดียวก็ย่อมแลเห็นผลได้ว่าอาจทำให้ผู้ถูกแทงถึงแก่ความตายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้เหล็กขูดชาร์ฟแทงทำร้ายนายประวิง ลาภวิไล ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ และริบของกลาง
จำเลยให้การว่า ได้กระทำไปเพื่อป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์นำสืบไม่ได้ความชัด อาจเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุดังจำเลยว่า พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยใช้เหล็กขูดชาร์ฟแทงสวนไปที่ตัวผู้ตายเพียงครั้งเดียวในเหตุการณ์ฉุกละหุกเฉพาะหน้าเนื่องจากกรณีวิวาท จะถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตายไม่ได้ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๐ วรรคแรก ให้จำคุก ๖ ปี ลดโทษ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๔ ปี ของกลางริบ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีไม่ใช่เรื่องป้องกันตัว พยานโจทก์เบิกความลงรอยกันในข้อที่ว่า ผู้ตายถูกต่อยเพราะเข้าไปห้ามมิให้คนสองฝ่ายทะเลาะกัน พยานโจทก์รับฟังได้ว่าจำเลยแทงผู้ตายฝ่ายเดียว หลังจากผู้ตายถูกต่อยเซไป พฤติการณ์เช่นนี้หาใช่เป็นการฉุกละหุกจนจำเลยไม่อาจกำหนดแน่ได้ว่าจะแทงให้ถูกผู้ตายตรงไหนไม่ได้ไม่ การที่จำเลยแทงถูกชายโครงด้านซ้ายของผู้ตาย แสดงให้เห็นว่า จำเลยมีเจตนาจะแทงให้ถูกผู้ตายตรงอวัยวะสำคัญ ผู้ตายมีบาดแผลที่ชายโครงด้านซ้ายเป็นรูปปีกกายาวประมาณ ๔.๕ เซนติเมตร ทะลุเข้าปอดข้างซ้ายและทะลุช่องท้องไปถูกม้ามแสดงว่าจำเลยจ้วงแทงจากเบื้องสูงลงไปโดยแรงด้วยเหล็กขูดชาร์ฟของกลางยาว ๒๑ เซนติเมตร แม้จะแทงเพียงทีเดียวก็ย่อมแลเห็นผลได้ว่า อาจทำให้ผู้ถูกแทงถึงแก่ความตายได้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ให้จำคุก ๑๕ ปี ลดโทษ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑๐ ปี ของกลางริบ.

Share