คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2612/2544

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ไม่เก็บรักษาเอกสารใบกำกับภาษีซื้อไว้ อันเป็นการไม่ปฏิบัติตาม ป. รัษฎากร มาตรา 87/3 โจทก์จึงต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับร้อยละสองของจำนวนภาษีที่นำมาเครดิตตาม ป. รัษฎากร มาตรา 89 (9)
โจทก์ไม่สามารถนำหลักฐานใบกำกับภาษีซื้อหรือใบแทนใบกำกับภาษีซื้อเดือนภาษีพิพาทมาแสดงให้เห็นว่ามีการชำระภาษีซื้อ ภาษีซื้อดังกล่าวจึงต้องห้ามมิให้นำมาหักในการคำนวณภาษีตาม ป. รัษฎากร มาตรา 82/5 (1) เมื่อโจทก์นำภาษีซื้อดังกล่าวมาหักในการคำนวณภาษีในการยื่นแบบแสดงรายการเป็นเหตุให้จำนวนภาษีซื้อที่แสดงไว้คลาดเคลื่อนไป โจทก์ต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับอีกหนึ่งเท่าของจำนวนภาษีซื้อที่แสดงไว้เกินไป ตามมาตรา 89 (4) อันเป็นความผิดที่แยกต่างห่างจากกรณีมิได้เก็บใบกำกับภาษีซื้อที่ใช้เครดิตภาษีในการคำนวณภาษีไว้ตามที่กฎหมายกำหนด โจทก์จึงต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับอีกร้อยละสองของจำนวนภาษีที่นำมาเครดิต ตามมาตรา 89 (9) ด้วย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข ๓ และหมายเลข ๕ เสียทั้งหมด
จำเลยทั้งสี่ให้การ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้แก้ไขการประเมินตามหนังสือแจ้งการประเมินภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ. ๗๓.๑) เลขที่ ๐๒๐๐๙๓๒๐/๕/๑๐๑๗๑๙ ถึง ๑๐๑๗๖๒ ลงวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๔๑ และคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เลขที่ สภ. ๒ (อธ. ๓๑)/๘/๑๗/๔๒ ลงวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๔๒ โดยให้โจทก์รับผิดเสียเบี้ยปรับหนึ่งเท่าของจำนวนภาษีซื้อที่แสดงไว้เกินตาม ป. รัษฎากร มาตรา ๘๙ (๔) คำขออื่นของโจทก์นอกจากนี้ให้ยกเสีย
จำเลยทั้งสี่อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่าคดีมีปัญหาวินิจฉัยว่า โจทก์จะต้องรับผิดชำระเบี้ยปรับในอัตราร้อยละสองของจำนวนภาษีซื้อที่นำมาเครดิตในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตาม ป. รัษฎากร มาตรา ๘๙ (๙) ด้วยหรือไม่ เห็นว่า โจทก์ไม่สามารถนำหลักฐานใบกำกับภาษีซื้อหรือใบแทนใบกำกับภาษีซื้อเดือนภาษีมีนาคม ๒๕๓๗ ถึงเดือนภาษีพฤศจิกายน ๒๕๔๐ มาแสดงต่อศาลได้เพราะเอกสารสูญหายระหว่างการขนย้ายและการซ่อมแซมสำนักงานของโจทก์ ดังนั้น การที่โจทก์ไม่เก็บรักษาเอกสารใบกำกับภาษีซื้อไว้ อันเป็นการไม่ปฏิบัติตาม ป. รัษฎากร มาตรา ๘๗/๓ โจทก์จึงต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับร้อยละสองของจำนวนภาษีที่นำมาเครดิตตาม ป. รัษฎากร มาตรา ๘๙ (๙) การที่โจทก์ไม่สามารถนำหลักฐานใบกำกับภาษีซื้อหรือใบแทนใบกำกับภาษีซื้อเดือนภาษีพิพาทมาแสดงให้เห็นว่ามีการชำระภาษีซื้อ ภาษีซื้อดังกล่าวจึงต้องห้ามมิให้นำมาหักในการคำนวณภาษีตาม ป. รัษฎากร มาตรา ๘๒/๕ (๑) เมื่อโจทก์นำภาษีซื้อดังกล่าวมาหักในการคำนวณภาษีในการยื่นแบบแสดงรายการเป็นเหตุให้จำนวนภาษีซื้อที่แสดงไว้คลาดเคลื่อนไป โจทก์ต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับอีกหนึ่งเท่าของจำนวนภาษีซื้อที่แสดงไว้เกินไป ตามมาตรา ๘๙ (๔) อันเป็นความผิดที่แยกต่างหากจากกรณีมิได้เก็บใบกำกับภาษีซื้อที่ใช้เครดิตภาษีในการคำนวณภาษีไว้ตามที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น โจทก์จึงต้องรับผิดเสียเบี้ยปรับอีกร้อยละสองของจำนวนภาษีที่นำมาเครดิต ตามมาตรา ๘๙ (๙) อีกด้วย ที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์.

Share