แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
บริษัท อ. นำน้ำมันเตาจำนวน 12,000 ลิตรที่โจทก์ร่วมสั่งซื้อไปส่งยังบริษัทโจทก์ร่วมโดยรถบรรทุกน้ำมัน และจะรับรู้หรือรับผิดชอบถ้าหากลวดซีลที่ฝาปิดเปิดอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย แสดงว่าบริษัท อ. ผู้ขายได้หมาย หรือ นับ ชั่ง ตวงวัด หรือคัดเลือกบ่งตัวทรัพย์สินคือน้ำมันเตาที่โจทก์ร่วมสั่งซื้อไว้แน่นอนเป็นจำนวน 12,000 ลิตร และบรรจุไว้ในรถเรียบร้อยแล้ว กรรมสิทธิ์ในน้ำมันเตาที่ซื้อขายย่อมโอนไปเป็นของโจทก์ร่วม การที่โจทก์ร่วมนำรถบรรทุกน้ำมันไปชั่งน้ำหนักอีกทีหนึ่งเป็นเพียงวิธีการตรวจสอบว่าบริษัท อ.ได้ส่งมอบน้ำมันเตาที่สั่งซื้อให้โจทก์ร่วมครบถ้วนหรือไม่เท่านั้น หาใช่เป็นเรื่องการกระทำเพื่อให้ทราบราคาที่แน่นอนไม่เมื่อจำเลยลักน้ำมันเตาไป 4,000 ลิตร โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหาย.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2527 เวลากลางวันจำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัทสามมิตรมอเตอร์ส แมนูแฟคเจอริ่งจำกัด กับพวกร่วมกันลักน้ำมันเตาจำนวน 4,000 ลิตร ราคา16,360 บาท ของบริษัทดังกล่าวไปโดยทุจริต ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(7) (11) และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ตามฟ้องแก่ผู้เสียหาย
จำเลยให้การปฏิเสธ
บริษัทสามมิตรมอเตอร์ส แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เข้าเป็นโจทก์ร่วม
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง
โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335(7) (11) จำคุก 4 ปี ให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ 16,360 บาท แก่โจทก์ร่วม
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้เถียงกันฟังได้ว่า จำเลยซึ่งเป็นลูกจ้างของโจทก์ร่วมทำหน้าที่ตรวจรับน้ำมันที่โจทก์ร่วมสั่งซื้อ ได้ร่วมกับนายจำเนียรพนักงานขับรถบรรทุกน้ำมันของบริษัทเอสโซ่แสตนดาร์ดประเทศไทย จำกัด ลักเอาน้ำมันเตาจำนวน 4,000ลิตร ราคา 16,360 บาท ซึ่งโจทก์ร่วมสั่งซื้อมาจากบริษัทเอสโซ่แสตนดาร์ด ประเทศไทย จำกัด ไปปัญหาในชั้นฎีกามีว่าน้ำมันเตาที่จำเลยร่วมกับพวกลักไปเป็นของโจทก์ร่วมหรือไม่เห็นว่า การซื้อขายน้ำมันระหว่างโจทก์ร่วมผู้ซื้อกับบริษัทเอสโซ่แสตนดาร์ด ประเทศไทย จำกัด ผู้ขายนั้น ข้อเท็จจริงฟังได้ตามที่โจทก์นำสืบและจำเลยไม่ได้นำสืบหักล้างว่า เมื่อบริษัทเอสโซ่แสตนดาร์ด ประเทศไทย จำกัด ได้บรรทุกน้ำมันเตาจำนวน 12,000 ลิตร ที่โจทก์ร่วมสั่งซื้อไปส่งยังบริษัทโจทก์ร่วม ก่อนที่โจทก์ร่วมจะเซ็นรับมอบน้ำมันจะต้องนำรถบรรทุกน้ำมันไปชั่งน้ำหนักเพื่อตรวจสอบจำนวนน้ำมันว่ามีปริมาณตรงกับที่สั่งซื้อหรือไม่ ซึ่งวิธีการชั่งน้ำหนักนี้นายสุภาพ จิตรายานนท์ ผู้จัดการบริษัทโจทก์ร่วมเบิกความว่าเป็นมาตรการทางปฏิบัติของบริษัทโจทก์ร่วม โดยบริษัทเอสโซ่แสตนดาร์ด ประเทศไทย จำกัด ผู้ขายไม่ได้เห็นชอบด้วยบริษัทเอสโซ่แสตนดาร์ด ประเทศไทย จำกัด จะรับรู้หรือรับผิดชอบถ้าหากลวดซีลที่ฝาปิดเปิดอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อยเท่านั้น แสดงว่าบริษัทเอสโซ่แสตนดาร์ด ประเทศไทย จำกัด ผู้ขายได้หมายหรือนับ ชั่ง ตวง วัดหรือคัดเลือก บ่งตัวทรัพย์สินคือน้ำมันเตาที่โจทก์ร่วมสั่งซื้อไว้แน่นอนเป็นจำนวน12,000 ลิตร และบรรจุไว้ในรถเรียบร้อยแล้วกรรมสิทธิ์ในน้ำมันเตาที่ซื้อขายย่อมโอนไปเป็นของโจทก์ร่วม การที่โจทก์ร่วมได้นำรถบรรทุกน้ำมันไปชั่งน้ำหนักอีกทีหนึ่งเป็นเพียงวิธีการตรวจสอบว่าบริษัทเอสโซ่แสตนดาร์ด ประเทศไทยจำกัด ได้ส่งมอบน้ำมันเตาที่สั่งซื้อให้โจทก์ร่วมครบถ้วนหรือไม่เท่านั้น กรณีหาใช่เป็นเรื่องการกระทำเพื่อให้ทราบราคาที่แน่นอนตามที่จำเลยฎีกาไม่ เมื่อจำเลยกับพวกลักน้ำมันเตาไป 4,000 ลิตร โจทก์ร่วมจึงเป็นผู้เสียหาย
พิพากษายืน.