คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 260/2529

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

จำเลยทำสัญญาจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างชั่วคราวตามสัญญาจ้างสี่ฉบับกำหนดระยะเวลาจ้างและวันเริ่มต้นและสิ้นสุดแห่งสัญญาไว้จึงเป็นสัญญาจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนแม้ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานข้อ75จะกำหนดให้ลูกจ้างชั่วคราวซึ่งทำงานเกินหนึ่งร้อยยี่สิบวันมีสิทธิเช่นเดียวกับลูกจ้างประจำแต่เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์ตามกำหนดระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามสัญญาจ้างฉบับที่สี่กรณีจึงเข้าข้อยกเว้นตามวรรคท้ายของข้อ46แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยไม่มีความผิดขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่าจำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างชั่วคราวโดยมีกำหนดระยะเวลาการจ้างแน่นอนและได้เลิกจ้างโจทก์ตามกำหนดเวลาดังกล่าวโจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าชดเชย
ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าจำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างชั่วคราวสัญญาจ้างที่กำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนมีได้เฉพาะลูกจ้างประจำลูกจ้างชั่วคราวไม่อาจกำหนดระยะเวลาจ้างไว้แน่นอนได้พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานฟังข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางฟังมาว่าจำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างชั่วคราวตามสัญญาจ้างรวม4ฉบับแต่ละฉบับกำหนดระยะเวลาไว้และโจทก์ได้ทำงานติดต่อกันตลอดมารวม2ปีแล้ววินิจฉัยว่าสัญญาจ้างทั้งสี่ฉบับที่จำเลยทำสัญญาจ้างโจทก์ได้กำหนดระยะเวลาจ้างและได้กำหนดวันเริ่มต้นแห่งสัญญาไว้ด้วยโดยเฉพาะสัญญาฉบับที่สองและฉบับที่สี่นอกจากจะได้กำหนดระยะเวลาจ้างแล้วยังได้กำหนดวันเริ่มต้นและวันสิ้นสุดของสัญญาไว้ด้วยสัญญาจ้างระหว่างโจทก์จำเลยจึงเป็นสัญญาจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนแม้ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานข้อ75กำหนดให้ลูกจ้างชั่วคราวซึ่งทำงานเกินหนึ่งร้อยยี่สิบวันมีสิทธิเช่นเดียวกับลูกจ้างประจำแต่เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์ตามกำหนดระยะเวลาที่กำหนดไว้ตามสัญญาจ้างกรณีจึงเข้าข้อยกเว้นตามวรรคท้ายของข้อ46แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงานจำเลยจึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย
พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์

Share