แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
สัญญาประนีประนอมยอมความทำกันในศาลเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2516 ความว่า จำเลยยอมชำระหนี้ให้โจทก์ภายใน 15 เดือนนับแต่วันทำสัญญา โดยให้นับ 30 วันเป็นหนึ่งเดือน ถ้าผิดนัด จำเลยยอมให้ทรัพย์จำนองหลุดและถือว่าหมดหนี้ต่อกัน ดังนี้ เมื่อจำเลยนำเงินมาวางศาลเพื่อชำระหนี้ในวันที่ 21 ตุลาคม 2517 จึงถือว่าจำเลยผิดนัด จำเลยต้องยอมให้ทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิแก่โจทก์และถือว่าหมดหนี้ต่อกันตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
ข้อตกลงให้นับ 30 วันเป็นหนึ่งเดือนย่อมบังคับกันได้ไม่ถือว่าขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชนทั้งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 156 ก็บัญญัติให้นับระยะเวลาตามวิธีการที่กำหนดไว้ในนิติกรรมได้
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้เงินกู้และเรียกเอาทรัพย์จำนอง เพื่อประกันการกู้ยืมเงินหลุด โจทก์จำเลยทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันต่อศาล เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2516 จำเลยยอมชำระหนี้ให้โจทก์ 150,000 บาท ภายใน 15 เดือนนับแต่วันทำสัญญาดังกล่าว โดยหนึ่งเดือนให้นับ 30 วัย ถ้าผิดนัดจำเลยยอมให้ทรัพย์จำนองหลุดและถือว่าหมดหนี้ต่อกัน วันที่ 21 ตุลาคม 2517 จำเลยนำเงิน150,000 บาท มาวางศาลเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ โจทก์ไม่ยินยอมและขอให้บังคับตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยผิดนัดตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่ทำไว้เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2516 จึงให้ปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าวคืนเงิน 150,000 บาทให้จำเลย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ตามสัญญาประนีประนอมยอมความข้อ 1 ว่า”จำเลยยอมชำระหนี้ตามฟ้องให้โจทก์จำนวน 150,000 บาท (หนึ่งแสนห้าหมื่นบาทถ้วน) ภายในระยะเวลา 15 เดือนนับแต่วันนี้ (หนึ่งเดือนให้นับ 30 วัน)” สัญญาประนีประนอมยอมความทำกันเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม2516 วันครบกำหนดระยะเวลา 15 เดือน จึงเป็นวันที่ 16 หรือ 17 ตุลาคม2517 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่จำเลยจะต้องชำระหนี้ให้โจทก์ การที่จำเลยนำเงินมาวางศาลเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ในวันที่ 21 ตุลาคม 2517 อันเป็นวันพ้นกำหนดระยะเวลาชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้วได้ชื่อว่าจำเลยผิดนัดตามสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยต้องยอมให้ทรัพย์จำนองหลุดเป็นสิทธิแก่โจทก์ และถือว่าหมดหนี้ต่อกันตามสัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อตกลงนี้คู่ความตกลงกันได้ไม่ถือว่าเป็นการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน อีกทั้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 156 ก็บัญญัติยกเว้นไว้ให้นับระยะเวลาตามวิธีการที่กำหนดไว้ในนิติกรรมได้ วิธีการนับระยะเวลาตามสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวจึงมีผลใช้บังคับจำเลยได้
พิพากษายืน