แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ตราบใดที่จำเลยยังมิได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงถิ่นที่ตั้ง สำนักงานแห่งใหญ่ของจำเลยไปตั้งอยู่ ณ สถานที่แห่งอื่นก็ต้องถือว่า จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ ณ ถิ่นที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ตามที่ได้จดทะเบียนไว้การที่โจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลย ณ ถิ่นที่ตั้ง สำนักงานแห่งใหญ่ จึงเป็นการส่งโดยชอบด้วยกฎหมายแล้วเมื่อจำเลย มิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนดเวลาตามที่กฎหมายบังคับไว้ ต้องถือว่า จำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าเรียกเงินค่าสินค้าที่โจทก์ได้ชำระให้จำเลยที่ 1 คืน และค่าเสียหายอื่นพร้อมดอกเบี้ย เพราะจำเลยที่ 1 ส่งสินค้าให้โจทก์ไม่ถูกต้องตามสัญญา และริบเงินค้ำประกันสัญญาซึ่งจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันความเสียหายตามสัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1
ต่อมาโจทก์ได้ถอนฟ้องเฉพาะตัวจำเลยที่ 2 ส่วนจำเลยที่ 1 ศาลสั่งขาดนัดยื่นคำให้การ ให้นัดสืบพยานโจทก์โดยแจ้งวันนัดให้จำเลยที่ 1 ทราบ
ครั้นวันที่ 26 มีนาคม 2524 ก่อนวันสืบพยานโจทก์ จำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องว่าจำเลยเพื่อทราบเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2524 ว่าถูกฟ้อง จำเลยมิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ แต่เนื่องจากจำเลยย้ายภูมิลำเนาจากอาคารเดิม เลขที่ 120 ถนนสีลมแขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร ไปอยู่ยังที่ทำการใหม่เลขที่ 114/20ถนนและแขวงเดียวกันกับภูมิลำเนาเดิมตั้งแต่งวันที่ 1 ธันวาคม 2523 และได้มอบหมายให้สำนักงานทนายความแห่งหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการการจดแจ้งการย้ายภูมิลำเนาแห่งใหม่ของจำเลยต่อสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท แต่จนขณะที่ยื่นคำร้อง การจดทะเบียนย้ายที่ตั้งสำนักงานแห่งใหม่ก็ยังไม่แล้วเสร็จ ขออนุญาตยื่นคำให้การ
ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของจำเลยที่ 1 แล้วยกคำร้องจำเลยที่ 1 ได้คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้นไว้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินแก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง
โจทก์และจำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์นับตั้งแต่วันผิดนัด นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ปรากฏตามเอกสารหนังสือรับรองของสำนักทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร กรมทะเบียนการค้าว่าสำนักงานแห่งใหญ่ของบริษัทจำเลยที่ 1 ตั้งอยู่เลขที่ 120 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานครดังนั้น จึงต้องถือว่า ภูมิลำเนาของจำเลยที่ 1 อยู่ ณ สำนักงานแห่งใหญ่นั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 71 และจำเลยที่ 1 ไม่ได้ย้ายที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ตามความเป็นจริงไปก่อนที่โจทก์ฟ้องคดีนี้ กรณีจะเป็นเช่นใดก็ตาม ตราบใดที่จำเลยที่ 1 ยังมิได้จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงถิ่งที่ตั้งสำนักงานแห่งใหญ่ของจำเลยที่ 1 ไปตั้งอยู่ ณ สถานที่แห่งอื่น ก็ต้องถือว่าจำเลยที่ 1 มีภูมิลำเนาอยู่ ณ เลขที่ 120 ถนนสีลม แขวงสุริยวงศ์ เขตบางรัก กรุงเทพมหานครซึ่งเป็นถิ่นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ตามที่ได้จดทะเบียนไว้ ดังนั้น การที่โจทก์นำส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้จำเลยที่ 1 ณ ถิ่นตั้งสำนักงานใหญ่ดังกล่าวแล้วจึงเป็นการส่งโดยชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 74,76 และ 79 แล้ว เมื่อจำเลยที่ 1 มิได้ยื่นคำให้การภายในกำหนดเวลาตามที่กฎหมายบังคับไว้ กรณีต้องถือว่าจำเลยที่ 1 จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ
พิพากษายืน