แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
โจทก์ยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์เฉพาะปัญหา ข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาแต่จำเลยทั้งสามรับสำเนาคำร้องดังกล่าวแล้วได้ยื่นคำแถลงคัดค้าน กรณีจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งอนุญาตให้ยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาได้ การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาได้และส่งอุทธรณ์ของโจทก์ไปยังศาลฎีกา จึงขัดต่อบทกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาไม่อาจวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ได้ ปัญหานี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยได้เองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5),246,247
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน 4,099,003 บาท แก่โจทก์พร้อมค่าปรับอัตราร้อยละ 2 ต่อเดือนของต้นเงิน 3,007,980 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสามขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระเงินจำนวน1,650,324 บาท พร้อมค่าปรับอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ในต้นเงิน1,413,644 บาท นับแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2538 ไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาต
โจทก์ยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกาพร้อมคำฟ้องอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ จำเลยทั้งสามยื่นคำแถลงคัดค้านศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์และอนุญาตให้ยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาได้
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้โจทก์ยื่นคำร้องขออนุญาตยื่นอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา แต่จำเลยทั้งสามรับสำเนาคำร้องดังกล่าวแล้วได้ยื่นคำแถลงคัดค้าน กรณีจึงไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิที่ศาลชั้นต้นจะมีคำสั่งอนุญาตให้ยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาได้การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์ยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาได้และส่งอุทธรณ์ของโจทก์ไปยังศาลฎีกาจึงขัดต่อกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาไม่อาจจะวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ได้ ปัญหานี้เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกายกขึ้นวินิจฉัยเองได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 142(5), 246, 247”
พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้โจทก์ยื่นอุทธรณ์โดยตรงต่อศาลฎีกาและให้ศาลชั้นต้นสั่งอุทธรณ์ของโจทก์ใหม่