คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2591/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

นัดสืบพยานวันที่ 28 ยื่นบัญชีระบุพยานในวันที่ 25 ก่อนวันนัดสืบพยานเพียง 2 วัน จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคหนึ่ง
เมื่อโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคหนึ่งแล้ว ก็ชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นแสดงว่าเหตุใดจึงยื่นบัญชีระบุพยานภายในกำหนดเวลาไม่ได้ เพื่อจะได้มีข้อเท็จจริงให้ศาลได้วินิจฉัยว่าข้ออ้างของโจทก์มีเหตุอันสมควรที่จะรับบัญชีระบุพยานไว้หรือไม่ การที่อ้างว่าโจทก์มิได้จงใจฝ่าฝืนระเบียบทั้งจำเลยไม่เสียเปรียบเพราะโจทก์ยังไม่ได้สืบพยาน เพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งคดีเป็นไปโดยเที่ยงธรรม แล้วอนุญาตให้รับบัญชีระบุพยานของโจทก์ไว้ จึงไม่ชอบ และจะกลายเป็นข้อยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามมาตรา 88 และโจทก์จงใจฝ่าฝืนหรือไม่ย่อมไม่แน่นอน ส่วนข้อได้เปรียบเสียเปรียบในทางคดีก็มีอยู่อย่างชัดแจ้ง ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับบัญชีระบุพยานโจทก์ชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระค่าใช้น้ำประปาและค่าเช่ามาตรวัดน้ำพร้อมกับค่าเสียหายคิดดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี

จำเลยให้การปฏิเสธสู้คดีหลายประการและว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว ขอให้ยกฟ้อง

วันนัดชี้สองสถาน ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์เป็นฝ่ายนำสืบก่อน ต่อมาโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานก่อนวันนัดสืบเพียง 2 วัน ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับบัญชีระบุพยานโจทก์

ครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี โดยอ้างว่านายฉัตรชัย ยิ้มงาม ทนายโจทก์ป่วย จำเลยคัดค้าน ศาลชั้นต้นเห็นว่าไม่มีเหตุสมควรจะให้เลื่อนการพิจารณา จึงไม่อนุญาตให้เลื่อนการสืบพยานโจทก์ และถือว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบให้สมฟ้อง พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์ขอให้สั่งรับบัญชีระบุพยานโจทก์ และให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานตามรูปคดี

ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมควรรับบัญชีระบุพยานโจทก์ และทนายโจทก์ผู้ขอเลื่อนคดีป่วยได้ขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรก สมควรอนุญาตให้เลื่อนคดีได้ พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นรับบัญชีระบุพยานโจทก์ไว้ และดำเนินการพิจารณาต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

จำเลยฎีกาว่าโจทก์มีทนาย 2 คน เมื่อคนหนึ่งป่วย อีกคนหนึ่งก็ควรมาศาลและโจทก์ไม่ได้ยื่นบัญชีระบุพยานโดยชอบ กับไม่มีเหตุสมควรที่จะให้เลื่อนการพิจารณาไป ขอให้ยกฟ้อง

ศาลฎีกาได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่าศาลชั้นต้นได้กำหนดวันสืบพยานโจทก์ไว้วันที่ 28 พฤษภาคม 2519 เวลา 8.30 นาฬิกา โจทก์ก็ทราบแล้วแต่เพิ่งมายื่นบัญชีระบุพยานในวันที่ 25 พฤษภาคม 2519 ก่อนวันสืบพยานเพียง 2 วันจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 88 วรรคหนึ่งเมื่อโจทก์ยื่นบัญชีระบุพยานฝ่าฝืนต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาดังกล่าวแล้วก็ชอบที่จะยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นแสดงว่าเหตุใดจึงยื่นบัญชีระบุพยานภายในกำหนดเวลาไม่ได้ เพื่อจะมีข้อเท็จจริงให้ศาลได้วินิจฉัยว่าข้ออ้างของโจทก์มีเหตุอันสมควรที่จะรับบัญชีระบุพยานไว้หรือไม่ เมื่อโจทก์ไม่ได้ยื่นคำร้องดังกล่าวการที่จะอ้างว่าเพื่อให้การวินิจฉัยชี้ขาดข้อสำคัญแห่งคดีเป็นไปโดยเที่ยงธรรมแล้วอนุญาตให้รับบัญชีระบุพยานของโจทก์ไว้จึงไม่ชอบ และจะกลายเป็นข้อยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตาม มาตรา 88 ที่ศาลอุทธรณ์รับบัญชีระบุพยานของโจทก์โดยให้เหตุผลว่าโจทก์มิได้จงใจฝ่าฝืนระเบียบ ทั้งจำเลยไม่เสียเปรียบ เพราะโจทก์ยังไม่ได้สืบพยานนั้น เห็นว่าโจทก์จะจงใจฝ่าฝืนหรือไม่ย่อมไม่แน่นอน เนื่องจากโจทก์ได้แต่งให้นายฉัตรชัย ยิ้มงาม และนายดำรง บัวชุม เป็นทนายความ เมื่อนายฉัตรชัย ยิ้มงาม ป่วยไม่สามารถมาว่าความได้ นายดำรง บัวชุม ทนายอีกคนหนึ่งก็น่าจะมาศาล เพื่อชี้แจงแสดงเหตุผลให้ศาลทราบ ส่วนข้อได้เปรียบเสียเปรียบในทางคดีก็มีอย่างชัดแจ้ง จะอ้างว่าจำเลยไม่เสียเปรียบย่อมไม่มีเหตุผลฟังได้ที่ศาลอุทธรณ์เห็นสมควรให้รับบัญชีระบุพยานโจทก์ไว้และดำเนินการพิจารณาแล้ว พิพากษาใหม่นั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังขึ้น

พิพากษากลับเป็นให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share