แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เมื่อที่ดินเป็นป่าสงวนแห่งชาติ มิใช่ของโจทก์โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจนำที่ดินดังกล่าวให้จำเลยเช่า และไม่มีอำนาจฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากที่ดินที่เช่าของโจทก์ และขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่าที่ดินที่โจทก์ฟ้องเป็นที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำเลยทำสัญญาเช่ากับโจทก์โดยสำคัญผิดว่าโจทก์เป็นเจ้าของ สัญญาเช่าเป็นโมฆะโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์จำเลยรับกันว่าที่ดินที่โจทก์ฟ้องอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ศาลชั้นต้นจึงงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าที่ดินพิพาทเป็นป่าสงวนแห่งชาติ มิใช่ของโจทก์ และจำเลยให้การต่อสู้ไว้ โจทก์ไม่มีอำนาจนำที่ดินดังกล่าวให้จำเลยเช่าและไม่มีอำนาจฟ้อง
พิพากษายืน