คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 259/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ในคดีล้มละลายนั้น พระราชบัญญัติล้มละลาย ฯ ได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษใน มาตรา 104 โดยกำหนดเงื่อนไขให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดหมายเจ้าหนี้และลูกหนี้มาพร้อมกันเพื่อตรวจคำขอรับชำระหนี้ ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ประสงค์จะคัดค้านหนี้รายใดว่าไม่สมบูรณ์ไม่มีสิทธิ หรือไม่ถูกต้องประการใด ได้กระทำเสียแต่ในชั้นแรกก่อนเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เริ่มทำการสอบสวนคำขอรับชำระหนี้ในแต่ละราย ดังนั้นหากจะถือว่าการขอรับชำระหนี้เป็นกรณีเดียวกับการยื่นฟ้องในคดีแพ่งทั่วไปซึ่งเจ้าหนี้มีสิทธิที่จะขอแก้ไขเพิ่มเติมได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180 แล้ว การดำเนินคดีของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็จะเต็มไปด้วยความยุ่งยากและไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อพระราชบัญญัติล้มละลาย ฯ ได้กำหนดไว้เป็นพิเศษเช่นนี้แล้วจึงไม่อาจนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาอนุโลมใช้ในกรณีขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ในคดีล้มละลายได้

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากการที่โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยล้มละลาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จำเลยเด็ดขาด เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ยื่นคำขอรับชำระหนี้เป็นเงิน ๑๒๗,๒๘๔.๐๕ บาท ไม่มีผู้ใดคัดค้าน เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำการสอบสวนแล้วแต่ก่อนทำความเห็นเสนอศาล เจ้าหนี้ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้เพิ่มเติมอีก ๕,๔๙๔ บาท ซึ่งเป็นการขอเพิ่มเติมภายหลังระยะเวลา ๒ เดือนตามที่พระราชบัญญัติล้มละลาย ฯ กำหนดไว้ในมาตรา ๙๑ โดยอ้างว่าจำนวนหนี้ที่ขอไว้เดิมผิดพลาดไป
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ทำความเห็นเสนอศาลชั้นต้นว่าควรให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้เป็นเงิน ๑๒๗,๒๘๔.๐๕ บาท เต็มตามจำนวนที่ขอมาในคราวแรกส่วนที่ขอเพิ่มเติมภายหลังอีก ๕,๔๙๔ บาทนั้น เห็นควรให้ยกคำร้อง ซึ่งเจ้าหนี้ได้ยื่นคำคัดค้าน แต่ต่อมาได้ขอถอนคำคัดค้านดังกล่าวแล้ว จึงไม่จำต้องพิจารณาสำหรับจำนวนหนี้ที่ขอเพิ่มเติมอีก
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
เจ้าหนี้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า การขอรับชำระหนี้ของบรรดาเจ้าหนี้ในคดีล้มละลายนั้น กฎหมายได้บัญญัติไว้เป็นพิเศษ ดังจะเห็นได้ตาม มาตรา ๑๐๔ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย ฯ ที่กำหนดเงื่อนไขให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์นัดหมายเจ้าหนี้และลูกหนี้มาพร้อมกันเพื่อตรวจคำขอรับชำระหนี้ ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ประสงค์จะคัดค้านหนี้รายใดว่าไม่สมบูรณ์ไม่มีสิทธิ หรือไม่ถูกต้องประการใด ได้กระทำเสียแต่ในชั้นแรก ก่อนที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเริ่มทำการสอบสวนคำขอรับชำระหนี้ในแต่ละราย ดังนั้น หากจะถือว่าการขอรับชำระหนี้เป็นกรณีเดียวกันกับการยื่นฟ้องในคดีแพ่งทั่ว ๆ ไป และเจ้าหนี้มีสิทธิที่จะแก้ไขเพิ่มเติมได้ภายในเงื่อนไขของมาตรา ๑๘๐ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งแล้ว การดำเนินคดีของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเต็มไปด้วยความยุ่งยากและไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้นเมื่อพระราชบัญญัติล้มละลาย ฯ ได้กำหนดเรื่องนี้ไว้เป็นพิเศษแล้ว จึงไม่อาจนำบทบัญญัติแพ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาอนุโลมใช้ได้
พิพากษายืน.

Share