แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนของหมั้น สินสอด และชดใช้ค่าเสียหายเพราะผิดสัญญาหมั้นแก่โจทก์รวมเป็นเงิน 169,500 บาท จึงเป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท และไม่ใช่คดีเกี่ยวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคลหรือสิทธิในครอบครัว จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.พ. มาตรา 248 วรรคหนึ่ง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นมารดาและเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองจำเลยที่ 1 โจทก์กับจำเลยที่ 1 หมั้นและสมรสกันตามประเพณีศาสนาอิสลาม ระหว่างอยู่กินกันฉันสามีภริยา จำเลยที่ 1 ไม่ยอมไปจดทะเบียนสมรสกับโจทก์ตามกฎหมาย และจำเลยที่ 1 ปฏิเสธที่จะอยู่กินฉันสามีภริยากับโจทก์อีกต่อไป การกระทำของจำเลยทั้งสองทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้บังคับจำเลยที่ 1 คืนสร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท ราคา 12,000 บาท ของหมั้น ให้แก่โจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ชดใช้เงิน 12,000 บาท แทน ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนเงินสินสอด 50,000 บาท ชดใช้ค่าใช้จ่าย 7,500 บาท และค่าเสียหายต่อชื่อเสียง 100,000 บาท รวมเป็นค่าเสียหาย 169,500 บาท
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยทั้งสองไม่เคยตกลงเรื่องการจดทะเบียนสมรสภายหลังทำพิธีสมรสตามประเพณีได้อยู่กินเป็นสามีภริยากัน 4 วัน แล้ว โจทก์ไม่ยอมไปหาจำเลยที่ 1 ซึ่งไม่ใช่ความผิดของจำเลยทั้งสอง โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ค่าเสียหายไม่เกิน 10,000 บาท ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนจำเลยทั้งสอง โดยกำหนดค่าทนายความ 20,000 บาท
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 8 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า “เห็นว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนของหมั้น สินสอด และชดใช้ค่าเสียหายเพราะผิดสัญญาหมั้นแก่โจทก์รวมเป็นเงิน 169,500 บาท จึงเป็นคดีที่มีทุนทรัพย์ในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท และไม่ใช่คดีเกี่ยวด้วยสิทธิแห่งสภาพบุคคลหรือสิทธิในครอบครัว จึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง เมื่อโจทก์ฎีกาว่าจำเลยทั้งสองผิดข้อตกลงตามสัญญาหมั้น ขอให้บังคับตามฟ้อง จึงเป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาของโจทก์ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าวที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของโจทก์มานั้นเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย”
พิพากษายกฎีกาของโจทก์ คืนค่าขึ้นศาลชั้นฎีกาทั้งหมดให้แก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.