แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หลักเกณฑ์การชำระค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 65 ประกอบมาตรา 43 บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะแล้ว ผู้ทรงสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปีเริ่มแต่ปีที่ 5 ของอายุสิทธิบัตรและต้องชำระภายใน 60 วัน นับแต่วันเริ่มต้นระยะเวลาของปีที่ 5 นั้น และของทุก ๆ ปีต่อไป เมื่อโจทก์ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2546 วันเริ่มต้นระยะเวลาของปีที่ 5 จึงเป็นวันที่ 1 เมษายน 2550 และต้องชำระภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 ไม่ใช่ชำระได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2551 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 ดังที่โจทก์อุทธรณ์
พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 62, 65 ประกอบมาตรา 43 และประกาศกรมทรัพย์สินทางปัญญา เรื่อง การนับระยะเวลาตาม พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 ได้บัญญัติเรื่องการนับระยะเวลาค่าธรรมเนียมรายปีของผู้ทรงสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ไว้ชัดเจนแล้ว ไม่จำเป็นที่จำเลยทั้งสองต้องแสดงแผนผังแสดงวิธีการนับระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมปีที่ 5 ถึงปีที่ 10 ให้โจทก์ทราบอีก
โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมรายปี ปีที่ 9 แก่จำเลยที่ 1 วันที่ 23 พฤษภาคม 2555 ที่ถูกโจทก์ต้องชำระระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2554 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2554 แต่เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชีของจำเลยที่ 1 รับชำระไว้แล้วนั้น จำเลยทั้งสองนำสืบว่า เกิดจากข้อผิดพลาดของระบบฐานข้อมูลสิทธิบัตรซึ่งคณะกรรมการสิทธิบัตรรับฟังว่าผิดพลาดจริงและถือว่าการชำระค่าธรรมเนียมรายปี ปีที่ 9 เป็นการชำระที่พ้นกำหนดเวลา โจทก์มิได้โต้แย้งข้อเท็จจริงดังกล่าว ข้อเท็จจริงจึงรับฟังเป็นยุติว่า โจทก์มิได้ชำระค่าธรรมเนียมรายปี ปีที่ 9 ภายในกำหนดเวลาตามกฎหมาย การที่จำเลยที่ 1 ทำรายงานต่อคณะกรรมการสิทธิบัตรให้เพิกถอนสิทธิบัตรของโจทก์ แล้วต่อมาคณะกรรมการสิทธิบัตรเพิกถอนสิทธิบัตรดังกล่าวจึงชอบด้วย พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 62, 65 ประกอบมาตรา 43 แล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองส่งแบบแผนผังวิธีการคำนวณระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมรายปีเริ่มแต่ปีที่ 5 และรายปีต่อปีจนครบ 10 ปี และเพิกถอนคำสั่งของจำเลยทั้งสองที่มีคำสั่งเพิกถอนทะเบียนสิทธิบัตรของโจทก์และคำสั่งของคณะกรรมการสิทธิบัตรที่ยืนตามคำสั่งของจำเลยทั้งสอง กับคืนทะเบียนสิทธิบัตรให้แก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่โจทก์และจำเลยทั้งสองไม่โต้แย้งกันในชั้นอุทธรณ์รับฟังว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทส่วนราชการ มีฐานะเป็นกรมในรัฐบาล สังกัดกระทรวงพาณิชย์ จำเลยที่ 2 เป็นข้าราชการในสังกัดกรม จำเลยที่ 1 ตำแหน่งนักวิชาการพาณิชย์ปฏิบัติการ ปฏิบัติราชการในกลุ่มหนังสือสำคัญและกำกับการจดทะเบียน สำนักสิทธิบัตร เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2546 โจทก์ นางพรพันธุ์ ภริยาโจทก์และนางสาวพรเพ็ญ บุตรโจทก์ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ โช้กอัพแรงอัดดันลม ต่อมาจำเลยที่ 1 ออกสิทธิบัตรให้แก่โจทก์ นางพรพันธุ์และนางสาวพรเพ็ญ โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมรายปีให้แก่จำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 มีหนังสือแจ้งเตือนแก่โจทก์ว่า ใกล้ถึงกำหนดเวลาที่ต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปี ปีที่ 9 แล้ว โดยให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2554 จำนวน 2,000 บาท หากไม่ชำระสิทธิบัตรของโจทก์จะถูกเพิกถอน โจทก์มิได้ชำระค่าธรรมเนียมดังกล่าว จำเลยที่ 1 เสนอให้คณะกรรมการสิทธิบัตรเพิกถอนสิทธิบัตรของโจทก์ เนื่องจากไม่ได้ยื่นขอชำระค่าธรรมเนียมรายปี ต่อมาคณะกรรมการสิทธิบัตรมีมติให้เพิกถอนสิทธิบัตรของโจทก์ ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2555 โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมรายปีแก่จำเลยที่ 1 แต่ต่อมาจำเลยที่ 1 เสนอให้คณะกรรมการสิทธิบัตรเพิกถอนการออกแบบผลิตภัณฑ์เลขที่ 18369 ของโจทก์อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากไม่ได้ยื่นขอชำระค่าธรรมเนียมรายปี ต่อมาคณะกรรมการสิทธิบัตรมีมติให้เพิกถอนสิทธิบัตรของโจทก์ ตามสำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการสิทธิบัตร ครั้งที่ 1/2556 โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของคณะกรรมการสิทธิบัตรโดยระบุว่าไม่อาจชำระค่าธรรมเนียมรายปี ปีที่ 10 ได้ และจำเลยที่ 1 เรียกเก็บค่าธรรมเนียมรายปีเร็วกว่ากำหนด 1 ปี คณะกรรมการสิทธิบัตรพิจารณาแล้วเห็นว่า เมื่อคณะกรรมการสิทธิบัตรมีมติเพิกถอนสิทธิบัตรของโจทก์ เนื่องจากไม่ชำระค่าธรรมเนียมรายปี ปีที่ 9 โจทก์ไม่ได้ร้องขอต่อคณะกรรมการสิทธิบัตรภายในกำหนด 60 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งเพิกถอนสิทธิบัตรว่ามีเหตุจำเป็นไม่อาจชำระค่าธรรมเนียมรายปี ปีที่ 9 ได้และไม่อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพิกถอนสิทธิบัตร คำสั่งของคณะกรรมการที่สั่งเพิกถอนสิทธิบัตรกรณีไม่ชำระค่าธรรมเนียมรายปี ปีที่ 9 เป็นที่สุด ส่วนการรับชำระค่าธรรมเนียมรายปี ปีที่ 9 เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2555 เกิดจากความขัดข้องของระบบฐานข้อมูลสิทธิบัตร (E-PATENT) ในทางปฏิบัติโจทก์สามารถขอคืนเงินค่าธรรมเนียมที่ได้ชำระให้แก่จำเลยที่ 1 ได้ คณะกรรมการสิทธิบัตรจึงมีมติให้เพิกถอนคำสั่งเพิกถอนสิทธิบัตรของโจทก์กรณีไม่ชำระค่าธรรมเนียมรายปี ปีที่ 10 ที่ได้มีคำสั่งในคราวประชุมคณะกรรมการสิทธิบัตร ครั้งที่ 1/2556 เนื่องจากคณะกรรมการสิทธิบัตรมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิบัตรแล้ว จากกรณีไม่ชำระค่าธรรมเนียมรายปี ปีที่ 9 ในคราวประชุมคณะกรรมการสิทธิบัตร เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2555 ตามสำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการสิทธิบัตร ครั้งที่ 5/2556 ลงวันที่ 17 กันยายน 2556
มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า จำเลยทั้งสองนับระยะเวลาเพื่อให้โจทก์ชำระค่าธรรมเนียมรายปีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า ผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์ จะได้รับสิทธิต่าง ๆ ตามที่พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 63 บัญญัติไว้ ก็ต่อเมื่อผู้ออกแบบผลิตภัณฑ์นั้นได้รับสิทธิบัตรแล้ว โดยสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ มีอายุสิบปีนับแต่วันขอรับสิทธิบัตรในราชอาณาจักร ตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 62 ส่วนการนับระยะเวลามีประกาศกรมทรัพย์สินทางปัญญา เรื่อง การนับระยะเวลา ตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 กำหนดไว้ โดยข้อ 2 วรรคหนึ่ง ของประกาศดังกล่าวกำหนดว่า ให้เริ่มนับตั้งแต่วันขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร โดยให้นับรวมวันขอรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรเป็นวันที่หนึ่งและให้สิ้นสุดวันก่อนหน้าจะถึงวันแห่งปีอันเป็นวันตรงกับวันเริ่มนับระยะเวลานั้นและประกาศดังกล่าวข้อ 2 วรรคสอง กำหนดว่า การนับระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้กับการนับระยะเวลาเพื่อชำระค่าธรรมเนียมรายปีด้วย ในกรณีของโจทก์กับพวกที่ยื่นขอรับสิทธิบัตรออกแบบผลิตภัณฑ์ตามคำขอรับสิทธิบัตรเลขที่ 0302001027 เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2546 สิทธิตามสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ตามคำขอของโจทก์ในช่วงปีแรก จึงอยู่ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2546 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2547 และช่วงปีที่ 5 อยู่ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2550 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2551 สำหรับเรื่องการชำระค่าธรรมเนียมรายปีนั้น พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 43 วรรคหนึ่ง ซึ่งอยู่ในหมวด 2 ว่าด้วยสิทธิบัตรการประดิษฐ์ บัญญัติไว้อย่างชัดเจนว่า “ผู้ทรงสิทธิบัตรต้องเสียค่าธรรมเนียมรายปีตามที่กำหนดในกฎกระทรวง เริ่มแต่ปีที่ห้าของอายุสิทธิบัตรและต้องชำระภายในหกสิบวันนับแต่วันเริ่มต้นระยะเวลาของปีที่ห้านั้นและของทุก ๆ ปีต่อไป” ซึ่งบทบัญญัติมาตรา 43 วรรคหนึ่ง มาตรา 65 ได้บัญญัติให้นำมาใช้บังคับในหมวด 3 ว่าด้วยสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์โดยอนุโลม มีผลให้ผู้ทรงสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ไม่ต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปีในช่วงปีที่ 1 ถึงปีที่ 4 แต่ต้องเริ่มชำระค่าธรรมเนียมรายปีในปีที่ 5 เป็นต้นไปจนถึงปีที่ 10 ทั้งนี้กฎกระทรวงว่าด้วยอัตราค่าธรรมเนียมและการยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตร พ.ศ.2547 ข้อ 2 (10) กำหนดค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ ปีที่ 5 จนถึงปีที่ 10 ไว้แล้ว เมื่อพิจารณากรณีของโจทก์ ระยะเวลาปีที่ 5 ของโจทก์เริ่มต้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2550 โจทก์ต้องชำระค่าธรรมเนียมปีที่ 5 ภายในหกสิบวัน นับแต่วันที่ 1 เมษายน 2550 ดังนั้น ที่จำเลยที่ 2 และนายณพเกษม นิติกรชำนาญการประจำสำนักกฎหมาย กรมทรัพย์สินทางปัญญา พยานจำเลยทั้งสองเบิกความประกอบบันทึกถ้อยคำยืนยันข้อเท็จจริงของพยานว่า ปีที่ 5 วันที่ครบกำหนดรอบปีคือ วันที่ 1 เมษายน 2550 วันที่ครบกำหนดชำระโดยไม่ต้องชำระค่าปรับหรือภายใน 60 วัน นับแต่วันเริ่มต้นระยะเวลาของปีที่ 5 คือตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2550 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 จึงสอดคล้องกับพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 65 ประกอบมาตรา 43 และมีน้ำหนักรับฟังได้ ส่วนที่โจทก์อุทธรณ์ทำนองว่า วันที่ 1 เมษายน 2546 ซึ่งเป็นวันที่โจทก์ยื่นขอรับสิทธิบัตรอันเป็นจุดเริ่มต้นต้องกำหนดเป็นศูนย์ หรือไม่นับระยะเวลาและครบห้าปีบริบูรณ์เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2551 แต่กฎหมายกำหนดให้ลดเวลาลง 1 วัน จึงครบ 5 ปี ในวันที่ 31 มีนาคม 2551 การชำระค่าธรรมเนียมปีที่ 5 ภายในกำหนด 60 วัน คือชำระตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2551 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 นั้น เห็นว่า หลักเกณฑ์การชำระค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์พระราชบัญญัติ พ.ศ.2522 มาตรา 65 ประกอบมาตรา 43 ได้บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะแล้ว โดยผู้ทรงสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปีเริ่มแต่ปีที่ 5 ของอายุสิทธิบัตรและต้องชำระภายใน 60 วัน นับแต่วันเริ่มต้นระยะเวลาของปีที่ 5 นั้น และของทุก ๆ ปีต่อไป เมื่อโจทก์ยื่นคำขอรับสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2546 วันเริ่มต้นระยะเวลาของปีที่ 5 ที่โจทก์จะต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปี จึงเป็นวันที่ 1 เมษายน 2550 และต้องชำระภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2550 ไม่ใช่ชำระได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2551 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2551 ดังที่โจทก์อุทธรณ์ ส่วนที่โจทก์อุทธรณ์ในทำนองว่า จำเลยทั้งสองออกหนังสือราชการเรียกเก็บเงินค่าธรรมเนียมรายปีโดยกำหนดเพียงวันที่โจทก์ต้องชำระแต่ไม่เคยแสดงแผนผังระเบียบวิธีการคิดคำนวณระยะเวลาให้โจทก์ทราบนั้น เห็นว่า พระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 62 มาตรา 65 ประกอบมาตรา 43 และประกาศกรมทรัพย์สินทางปัญญา เรื่อง การนับระยะเวลาตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 ได้บัญญัติเรื่องระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมรายปีของผู้ทรงสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ไว้ชัดเจนเพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นที่จำเลยทั้งสองต้องแสดงแผนผังแสดงวิธีการนับระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมปีที่ 5 ถึงปีที่ 10 ให้โจทก์ทราบดังที่โจทก์อุทธรณ์อีก ส่วนกรณีที่โจทก์นำค่าธรรมเนียมรายปี ปีที่ 9 ไปชำระแก่จำเลยที่ 1 เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2555 ซึ่งที่ถูกโจทก์ต้องชำระค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับปีที่ 9 ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2554 ถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2554 แต่เจ้าหน้าที่การเงินและบัญชีของจำเลยที่ 1 รับชำระไว้แล้วนั้น ข้อเท็จจริงปรากฏจากทางนำสืบของจำเลยทั้งสองว่า สาเหตุเกิดจากข้อผิดพลาดของระบบฐานข้อมูลสิทธิบัตร ซึ่งคณะกรรมการสิทธิบัตรรับฟังว่าเกิดข้อผิดพลาดดังกล่าวจริงและถือว่าการชำระค่าธรรมเนียมรายปี ปีที่ 9 เป็นการชำระค่าธรรมเนียมรายปีที่พ้นกำหนดเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ตามสำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการสิทธิบัตร ครั้งที่ 5/2556 การที่คณะกรรมการสิทธิบัตรยืนยันให้เพิกถอนสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ของโจทก์เนื่องจากไม่ชำระค่าธรรมเนียมรายปี ปีที่ 9 และอุทธรณ์ของโจทก์มิได้โต้แย้งข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ข้อเท็จจริงจึงรับฟังเป็นยุติว่า โจทก์มิได้ชำระค่าธรรมเนียมรายปี ปีที่ 9 ภายในกำหนดเวลาตามกฎหมาย เมื่อจำเลยที่ 1 ทำรายงานต่อคณะกรรมการสิทธิบัตรให้เพิกถอนสิทธิบัตรตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 65 ประกอบมาตรา 43 วรรคสี่ แล้วต่อมาคณะกรรมการสิทธิบัตรเพิกถอนสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ของโจทก์เนื่องจากไม่ชำระค่าธรรมเนียมรายปี ปีที่ 9 ตามสำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการสิทธิบัตร ครั้งที่ 1/2555 การกระทำของจำเลยทั้งสองและคณะกรรมการสิทธิบัตรจึงเป็นการกระทำที่ชอบด้วยพระราชบัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ.2522 มาตรา 62 มาตรา 65 ประกอบมาตรา 43 แล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนคำสั่งของจำเลยทั้งสองและคำสั่งของคณะกรรมการสิทธิบัตรที่ให้เพิกถอนสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์เลขที่ 18369 ของโจทก์ ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องมานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ