คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2585/2537

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองร่วมกระทำความผิดฐานเดียวกัน ลักษณะของความผิดไม่เป็นการกระทำรายใหญ่ พฤติการณ์แห่งคดีไม่เป็นการร้ายแรงที่ศาลล่างลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 โดยไม่รอการลงโทษ แตกต่างจากจำเลยที่ 2 โดยไม่ปรากฎเหตุผลพิเศษ จึงไม่ถูกต้อง ผู้กระทำผิดด้วยกันควรรับโทษหนักเบาเท่าเทียมกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามพระราชบัญญัติการพนันพ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 15 ริบของกลางและจ่ายสินบนนำจับ
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 5, 6, 10, 12, 15จำเลยที่ 1 จำคุก 4 เดือน จำเลยที่ 2 จำคุก 6 เดือน ปรับ 5,000 บาทจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด2 เดือน จำเลยที่ 2 จำคุก 3 เดือน ปรับ 2,500 บาท เห็นสมควรรอการลงโทษจำคุกให้เฉพาะจำเลยที่ 2 มีกำหนด 2 ปี ให้คุมประพฤติจำเลยที่ 2 โดยให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือนต่อครั้งมีกำหนด 5 ครั้ง ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลางและจ่ายสินบนนำจับ
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์ขอให้รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว เห็นว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำความผิดตามฟ้องในความผิดฐานเดียวกัน ลักษณะของความผิดไม่เป็นการกระทำความผิดรายใหญ่พฤติการณ์แห่งคดีจึงไม่เป็นการร้ายแรงนัก จำเลยที่ 1 เป็นหญิงมีอายุมากแล้ว และให้การรับสารภาพมาตลอด ตามฎีกาก็ปรากฎว่าจำเลยที่ 1 มีโรคประจำตัวและยังมีภาระเลี้ยงดูมารดาที่ชราภาพแล้วที่ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 โดยไม่รอการลงโทษแตกต่างไปจากจำเลยที่ 2 โดยไม่ปรากฎเหตุผลพิเศษ ไม่ถูกต้อง ผู้กระทำผิดด้วยกันควรรับโทษหนักเบาเท่าเทียมกัน จึงเห็นควรลงโทษจำคุกและปรับจำเลยที่ 1 เช่นเดียวกับจำเลยที่ 2 ได้รับ ฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 จำคุก 6 เดือน ปรับ 5,000 บาทลดโทษกึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้วคงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 3 เดือน ปรับ 2,500 บาท ให้รอการลงโทษจำคุกไว้2 ปี คุมประพฤติจำเลยที่ 1 โดยให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติทุก 3 เดือน รวม 5 ครั้ง ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 และให้จำเลยที่ 1 จ่ายสินบนนับจับนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share